ทีเอ็มบี มีกำไร 1,032 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 17, 2012 16:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--ทีเอ็มบี ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มีผลกำไรสุทธิ 1,032 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลัก (core operation) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (Net Interest Margin — NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.51% จาก 2.46% ในไตรมาสที่ 4/2554 และจาก 2.23% ในไตรมาสที่ 1/2554 ในขณะเดียวกัน รายได้ของธนาคารปรับตัวขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost to income ratio) ในไตรมาสนี้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 59.0% เมื่อเทียบกับ 76.5% ในไตรมาสที่ 4/2554 และ 67.0% ในไตรมาสที่ 1/2554 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการของธนาคารซึ่งมีพัฒนาการที่ดีมาโดยตลอด ณ สิ้นไตรมาส ธนาคารมีปริมาณเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ธนาคารมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ทั้งนี้เป็นผลจากการที่เงินฝากประจำบางส่วนครบกำหนด ในขณะที่เงินฝากในผลิตภัณฑ์เงินออมใหม่ๆ ที่เพิ่มพูนประโยชน์และคุณค่าให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้นตามแนวคิด “Make THE Difference — พลังในตัวคุณเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น” มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น “บัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี (TMB No Fixed) ซึ่งเป็นเงินฝากประจำที่ถอนได้ก่อนกำหนดและเงินฝากของบริการธนาคารรูปแบบใหม่ “ME by TMB” ซึ่งเป็นบริการธนาคารสำหรับลูกค้าที่ชอบจัดการด้านการเงินด้วยตัวเองและได้รับผลประโยชน์มากกว่า ธนาคารมีการบริหารจัดการสภาพคล่องตามนโยบายที่รอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งในไตรมาสที่ 1/2555 สภาพคล่องของธนาคารอยู่ในระดับสูง ด้วยส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมและตั๋วเงินฝาก (loan to deposit & B/E ratio) อยู่ที่ระดับ 87.0% ในไตรมาสที่ 1/2555 สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวน 30,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 642 ล้านบาทจากสิ้นปี 2554 ทั้งนี้ เป็นผลจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้ารายใหญ่ ในขณะที่ผลกระทบจากน้ำท่วมมีไม่มาก สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.8% จาก 5.7% เมื่อสิ้นปี 2554 และสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเฉพาะของธนาคารอยู่ที่ 5.4% ธนาคารได้มีการตั้งสำรองทั้งหมดจำนวน 1,242 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1/2555 ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 74% เมื่อเทียบกับ 73% ณ สิ้นปี 2554

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ