สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 4, 2012 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ ระดับ 1,598 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,620เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.41 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23, 800บาท กับ 23,900บาท และกลับมาปิดที่ 23,850 บาท กับ 23,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50บาท อยู่ที่ 2,155 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,393 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 4คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.7% แบบ 10 บาท ลดลง 2.1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3.5% GFQ12 ปิดที่ 24,240 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,340 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,250 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,340 บาท SVQ12 ปิดที่995 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 24.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,621.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขี้น 78.10 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 28.28 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,279.51 ตัน(เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 3.91 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 87.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 72.43 จุด ปิดที่ระดับ 12,943.82จุด Ratio Gold / Silver 57 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk ภาวะตลาดกระทิงของทองคำยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องในช่วงค่ำคืนของตลาด ลอนดอน จากความกังวลในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง หลังการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดความหวังในมาตรการ QE3 เพิ่มมากขึ้น Mining สัญญาส่งมอบทองคำเดือนสิงหาคม ในตลาด COMEX ปรับตัวสูงขึ้น 24.10 เหรียญ หรือ 1.5% ที่ระดับ 1,621.8 เหรียญ/ออนซ์ เมื่อคืนนี้ก่อนที่จะมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,620 เหรียญโดยราคาทองคำได้รับแรงกระตุ้นจากความหวังที่อาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากกลุ่มธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจจากทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และจีนออกมาอย่างน่าผิดหวัง อีกทั้ง ทองคำยังได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ เดือน จากความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของอิหร่าน รวมไปถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เช่นกัน นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.75% ในการประชุมวันพฤหัสบดี ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่จีนอาจมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ธนาคารเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่ผ่านมา Reuters ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากสัญญาณการชะลอตัวในเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลให้มีความคาดหวังจากนัก ลงทุนเพิ่มขึ้นว่า กลุ่มธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกจะออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหม่ โดยทองคำได้รับผลพลอยได้จากการเข้าซื้อถัวความเสี่ยงกับภาวะเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบมีการฟื้นตัวอย่างมากจากความตึงเครียดที่เพิ่ม มากขึ้นในแผนนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 5% ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขภาคการผลิตหดตัวในเดือนมิถุนายนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานของสหรัฐฯ ออกมามากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนพฤษภาคม แต่แนวโน้มในปีนี้มีทีท่าว่าจะอ่อนแอลง ส่งผลให้เกิดความกังวลอย่างต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ข้อมูลเบื้องต้นจากรอยเตอร์ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายเมื่อวานนี้ยังคงเบาบางที่ระดับ 40% ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน เนื่องจากฝ่ายการซื้อขายมีพนักงานไม่มากนักซึ่งเป็นวันก่อนวันหยุดวันชาติ สหรัฐอเมริกาในวันนี้ การประกาศตัวเลข Non-farm payroll ในวันศุกร์นี้ นักลงทุนจะใช้เป็นตัวกำหนดในการพินิจพิเคราะห์ถึงความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม จากเฟด โดยมีการคาดการณ์จากผลสำรวจรอยเตอร์ว่าภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ จะมีการเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่ง สำหรับเช้านี้ที่ตลาดสิงคโปร์ ราคาทองคำมีการปรับตัวเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 1,618 เหรียญ ณ เวลา7.43 น. หลังจากที่ฟื้นตัวมากกว่า 1% เมื่อคืนนี้ไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ1,624.70 เหรียญ ข่าวทางด้านน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง 26 เซนต์ มาอยู่ที่ระดับ 87.40 ดอลลาร์/บาร์เรลในเช้านี้ ณ เวลา 7.39 น. หลังจากที่ก่อนหน้านี้พุ่งสูงขึ้นกว่า 4% ไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 87.77 เหรียญอย่างไรก็ตามมีความกังวลจากการคุกคามของอิหร่านในการขู่ปิดเส้นทางขน ส่งน้ำมันที่สำคัญ รวมไปถึงอิหร่านได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า การทดสอบศักยภาพของขีปนาวุธวิถีกลางประสบความสำเร็จ CNBC นายมาเรียโน ราฮอยจะหาหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงการร้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน แม้ว่าจะมีการดำเนินการหลังการประชุมอียูซัมมิทเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธนาคาร ของประเทศที่มีปัญหา และลดแรงกดดันในเรื่องต้นทุนการกู้ยืมที่สูงก็ตาม ซึ่งนายราฮอยจะเผชิญหน้ากับการเจรจาที่ยากลำบากและยาวนานเพื่อสรุปผลการช่วย เหลือ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศเลวร้ายมากขึ้น และยอดขาดดุลเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงแรงงาน 1 ใน 4 ส่วนยังตกงานอยู่ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดีเท่าที่ควร และกำลังเผชิญกับความเสี่ยง 2 ประการ ได้แก่ fiscal cliff และสิ่งที่กำลังเป็นไปในยูโรโซน โดย fiscal cliff เกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มภาษีและลดการใช้จ่ายที่จะมีผลกระทบในช่วงต้นปี2013 ซึ่งหากความเสี่ยงทางด้านเพดานหนี้และ fiscal cliff มากระทบกับสหรัฐฯ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะหดตัว นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟยังมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโต 2% ในปีนี้ และ 2.3% ในปีหน้า Infoquest สหรัฐระบุว่าจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อทำให้ช่องแคบฮอร์มุซยังคงเป็นเส้น ทางที่เปิดใช้การได้ นางวิคตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า ช่องแคบฮอร์มุซเป็นเขตน่านน้ำสากลซึ่งจำเป็นต้องเปิดเป็นเส้นทางเดินเรือของ ทุกประเทศที่ที่มีสิทธิใช้สัญจร ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.7% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.1%ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.1% ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Retail Sales (EUR) ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -1.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.2% - Final GDP (EUR) ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.0% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นๆ เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามข่าวสภาวะการคาดหวังต่างๆ ในตลาด เช่น ประเด็นแรก มีความคาดหวังว่าจะมี QE3 ประเด็นที่ 2 ก็มีการมองคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจากอีซีบี และประเด็นที่ 3 ก็เป็นการขึ้นของทองคำตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงจากความตึง เครียดในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งประการหลังมีความเป็นไปได้สูงที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามราคา น้ำมัน อย่างไรก็ดีภาพรวมๆ ของค่าเงินยูโรดอลลาร์จะเห็นได้ว่าค่อนข้างทรงตัว ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเท่าไรนักที่ระดับ 1.2585 ดอลลาร์/ยูโร แต่เมื่อวานก็มีบางช่วงที่ปรับตัวไปที่ระดับ 1.2617 ดอลลาร์/ยูโร เป็นการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโร ในส่วนของราคาทองคำในเชิงเทคนิค จะเห็นได้ว่าในระยะสั้นเริ่มเป็นสัญญาณบวก โดยที่ราคาทองคำในกราฟรายชั่วโมง ไปจนถึง 8ชั่วโมงส่งเป็นสัญญาณบวกโดยราคาปรับเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ Oscillator ก็เป็นสัญญาณบวกเช่นกัน โดยที่ราคาทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,625 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย100 วันของนักลงทุนรายวัน และแนวต้านที่ระดับ 1,645 เหรียญตามลำดับ MTS Gold คาดว่าราคาทองคำไม่น่าจะสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้ ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวมาข้างต้นไม่น่าจะเพียงพอจนกว่าจะมีการใช้มาตรการ QE อย่างจริงจัง และยังมองว่ามาตรการ QE ไม่น่าจะเป็นไปได้ในระยะสั้นๆ แบบนี้ น่าจะเป็นการเล่นข่าวและปรับตัวในสภาพของข่าวมากกว่า ฉะนั้นนักลงทุนควรจะต้องระวังการแกว่งตัวในระยะสั้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ดีในกราฟรายนาที จนถึง 60 นาที เริ่มมี Divergence ใน RSI และ MACD Histogram บ้าง ซึ่งยังคาดว่ามีโอกาสที่ราคาน่าจะตันๆ บริเวณ 1,625 เหรียญได้ คำแนะนำยังให้เล่นเก็งกำไรในกรอบ 1,625 เป็นแนวต้านด้านบน และ 1,600 เหรียญเป็นแนวรับด้านล่าง เชื่อว่าจะเคลื่อนอยู่ในกรอบดังกล่าว Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,330 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,230 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 910 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,610 — 1,625 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน(Weekly Trade) Wait and See ยังไม่ทำอะไรมากกว่า รอดูความชัดเจนของทิศทาง Portfolio อาจจะยังคงถืออยู่เป็น Short 10% — 20% อาจตาม Short บริเวณ 1,645 เหรียญ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังไม่ได้ทำอะไร รอความชัดเจนของทิศทางข่าว สรุปได้ว่า ในระยะสั้นๆ ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่ว่าไม่คิดว่าจะสามารถทะลุ Double Top บริเวณ 1,630 เหรียญขึ้นไปได้ คงไม่เป็นเรื่องง่ายนัก บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ