กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ทรูมูฟ เอช เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “3G+ เพื่อคนไทย” 3 เรื่อง ซึ่งพูดถึงประโยชน์ของ 3G+ ในด้านต่างๆ ทั้งการแพทย์ทางไกล การศึกษาทางไกล และการทำเกษตรกรรมออนไลน์ โฆษณาชุดนี้ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี 3G+ ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ผ่านทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการ 3G+ บนเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความเร็วสูงสุด 42 Mbps* ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบทุกอำเภอ 7,336 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุด ในต่างประเทศ ที่ใช้งานได้จริงแล้ววันนี้
นางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้อำนวยการด้านบริหารแบรนด์และการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ กล่าวถึงที่มาของแคมเปญ 3G+ เพื่อคนไทย ว่า “แคมเปญนี้เกิดจากความตั้งใจจริงของทรูมูฟ เอช ในการพัฒนาบริการ 3G+ ให้เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดและครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด เพราะเราเชื่อมั่นว่า 3G+ คือเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาส เปลี่ยนชีวิตให้กับคนไทยได้ โดยนำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ได้แก่ สถานีอนามัย คุณครูชายแดน และเกษตรกร ซึ่งถ่ายทอดประโยชน์ที่แท้จริงของ 3G+ ที่ไม่ได้มีไว้เพียงแค่ใช้ แชท โหลด หรือแชร์อย่างที่เราคุ้นเคยเท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ทั้งทางด้านการแพทย์ การศึกษา การเกษตร ภาคธุรกิจและบันเทิง ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าทุกคนในประเทศควรจะมีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3G+ ได้อย่าง เท่าเทียมกัน”
แนวความคิดโฆษณาเรื่อง “สถานีอนามัย”
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ เป็นเรื่องของสถานีอนามัยแห่งหนึ่ง ซึ่ง 3G+ ได้มีส่วนช่วยให้คนในหมู่บ้าน มีโอกาสได้พบกับคุณหมอผ่านเครือข่าย 3G+ แม้คนในหมู่บ้านดังกล่าว จะไม่มีความรู้ว่า 3G+ คืออะไร เขารู้แต่เพียงว่า 3G+ คือวินาทีแห่งชีวิต ที่ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสรอดชีวิต ซึ่ง 3G+ ทำให้หมอมาหายายได้ทุกวัน ทำให้ลุงไม่ต้องถูกตัดขาจากแผลติดเชื้อ สำหรับอาสาสมัคร 3G+ ทำให้เขาช่วยชาวบ้านได้เร็วและมากขึ้น หรือทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งได้พ่อกลับคืนมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แง่คิดในท้ายเรื่องว่า สำหรับ
คนที่สนุกกับการโหลด แชท แชร์ อาจจะคิดว่าไม่มี 3G หรือ 4G ก็คงไม่เป็นไร แต่สำหรับคนในพื้นที่ห่างไกล 3G+ กลับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของพวกเขา
แนวความคิดโฆษณาเรื่อง “คุณครูชายแดน”
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ สื่อให้เห็นถึงนักเรียนในชนบทห่างไกลที่ได้รับประโยชน์ของ 3G+ ในด้านของการศึกษา คือการได้ดูคลิปการเรียนการสอนจากครูจริงๆ จากทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ในปัจจุบัน ทำให้นักเรียนเหล่านี้มีโอกาสพอๆ กับนักเรียนที่อื่นๆ โดยเล่าถึงตำรวจตระเวนชายแดนที่เปลี่ยนบทบาทไป เป็นครู และเพียงแค่มีเทคโนโลยี 3G+ นักเรียนหลายคนในพื้นที่ห่างไกลก็จะมีโอกาสที่ได้เรียนกับครูจริงๆ ผ่านการเรียนการสอนทางไกลจากอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นคลิปการสอนของครูตัวจริง และเว็บวิชาการในโลกอินเทอร์เน็ตมากมาย สามารถช่วยให้เด็กในที่ห่างไกลมีโอกาสทางการศึกษาทัดเทียมกับเด็กในเมือง
แนวความคิดโฆษณาเรื่อง “ชาวนา”
หลายคนบอกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีปัญหาร้อยแปด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดิน ฟ้า อากาศ ราคาข้าวต่างๆ จนเป็นภาพเดิมๆ ที่หลายคนชินตา ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงกลุ่มชาวนารุ่นใหม่คือลูกหลานของชาวนาเหล่านี้ที่มีความมุ่งมั่นอยากเห็นอาชีพนี้พัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น และสิ่งสำคัญของการพัฒนาประการหนึ่ง คือการเข้าถึงข้อมูล การได้รู้ว่าแมลงตัวนี้คืออะไร มีผลกระทบต่อข้าวไหม ถ้ามีต้องกำจัดอย่างไรไม่ให้ข้าวเสียหาย ไม่ใช้สารเคมี โรคนี้คืออะไร รักษาอย่างไรจะดีที่สุด อัพเดทกันจากภาคหนึ่งถึงอีกภาคหนึ่ง กระทั่งว่าสามารถขายข้าวถึงผู้บริโภคโดยตรงได้เลย ผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาเอง และ 3G+ ได้เข้ามามีบทบาทเป็นเหมือนทางเชื่อมให้ชาวนาเข้าถึงข้อมูลต่างๆ และนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนได้อย่างดีที่สุด
นี่คืออีกความตั้งใจของทรูมูฟ เอช ที่ต้องการจะพัฒนาเครือข่าย 3G+ ให้เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดครอบคลุมมากที่สุด สื่อให้เห็นว่า 3G+มีประโยชน์อย่างไร และคนไทยมีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว สมกับความมุ่งมั่นที่จะเป็น “ที่สุดของเครือข่าย เพื่อชีวิตอิสระ”ติดตามเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ได้ใน www.truemove-h.com
สินค้า: ทรูมูฟ เอช
ชื่อภาพยนตร์โฆษณา: “สถานีอนามัย” “คุณครูชายแดน” และ “ชาวนา”
ความยาว: 60 วินาที และ 30 วินาที
เอเจนซี่: โอกิลวี แอนด์ เมเธอร์
Group Executive Creative Director: วิศิษฎ์ ล้ำศิริเจริญโชค
Creative Director: กุลวดี ดอกสร้อย
Art Director: กุลธิดา โรจน์วิทย์
Agency Producer: ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค
คันธรส วิวรรณ