กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ไอทูซี คอมมิวนิเคชั่นส์
“พุทธชาติ รังคสิริ” ประกาศเดินหน้าพา TWZ โตแรง-โตเร็ว ภายใต้ยุทธศาสตร์ TWZ Fast Forward เผยแผนธุรกิจปี 58 เดินหน้าสร้างรายได้แตะ 5 พันล้านบาท มั่นใจปีหน้าเป็นปีทองของธุรกิจ เหตุภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมส่อแววคึกคัก ขณะที่โอกาสของบริษัทฯ เปิดกว้างเต็มที่ หลังพันธมิตรรายใหญ่ “วิชัย ทองแตง” เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ส่งผลฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง แบ็คอัพแน่นปึ้ก พร้อมเดินหน้าขยายงานเต็มสูบทั้งในไทยและภูมิภาคตามทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทียุคดิจิตอลและ AEC ขณะเดียวกันยังทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง หลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผน ลั่นดันบริษัทย่อย “ปิยะชาติ” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ผู้จำหน่ายและให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งประกอบด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซิมการ์ด บัตรเติมเงิน และอุปกรณ์เสริม ภายใต้แนวคิด “SmartPhone For Everyone” เปิดเผยยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ว่า ปี 2558 จะเป็นปีที่บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโต “แรงและเร็ว” ภายใต้กลยุทธ์ TWZ Fast Forward ที่เน้นการสร้างเครือข่าย และการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรในการต่อยอดธุรกิจเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาดังกล่าวยังถือว่า เป็นปีทองของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งบริษัทฯ สามารถที่จะเกาะกระแสเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมได้ด้วยความพร้อมหลายด้าน
“เรามองว่า ปี 2558 จะเป็นปีทองของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งจะเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะทำให้ TWZ เติบโตตามไปด้วย เนื่องจาก ณ วันนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งทางด้านประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี รวมถึงทางด้านฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น หลังจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 240 ล้านบาท เป็น 623 ล้านบาท โดยคุณวิชัย ทองแตง นักลงทุนหุ้นคุณค่าหรือแวลู อินเวสเตอร์ รายใหญ่ ได้เข้ามาลงทุน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว คุณวิชัยยังมีวิสัยทัศน์สู่ AEC หรือตลาดอาเซียน โดยให้ CTH อินเตอร์เนชั่นแนล มาช่วยโปรโมทไปยัง Operator ต่างประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ TWZ เติบโตและแข็งแกร่งในต่างประเทศ ” นายพุทธชาติกล่าว
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของ TWZ ในปัจจุบัน มี 3 ธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งแบรนด์ทั่วไปและแบรนด์ TWZ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยสามารถแบ่งประเภทสินค้าเป็นสินค้าในกลุ่มโทรศัพท์มือถือ กลุ่มอุปกรณ์เสริมหรือ Accessories บัตรเติมเงิน ซิมการ์ด 2.สินค้ากลุ่มดิจิตอลไลฟ์ เช่น แก็ตเจ็ต หรือกล่องรับสัญญาณที่สามารถสร้างความบันเทิง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยหรือ Security Product อาทิ กล้องวงจรปิด ‘อี-โรบอต’ ที่ทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่น เป็นต้น และ 3. สินค้ากลุ่ม ซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น จะเป็นรายได้ตัวใหม่ของ TWZ ซึ่งเราจะมีรายได้จากการใช้แอพพลิเคชั่นTWZ-HUB และจะเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ผนึกความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการคอนเท้นท์รายใหญ่ ทั้ง CTH และ GMM Z และมีแผนที่จะขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับอีกหลายๆ ธุรกิจ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในอนาคต โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ผนึกความร่วมมือกับ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART ในการขยายจุดการให้บริการ “บุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิส” ผ่านสาขาต่างๆ ของ TWZ Shop ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรหลักที่จะเข้ามาเสริมความเข้มแข็ง โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะได้รับความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ เติมเงินมือถือ รวมทั้งเติมเงินเกมส์ออนไลน์ นอกเหนือไปจากการเลือกซื้อสินค้า ทำให้บริการของ TWZ มีความหลากหลายและครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดย FSMART มีเป้าหมายที่จะบริการ 6,000 เครื่องในปี 2558
ขณะที่ TZ Trading ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ TWZ ก็ได้รับสิทธิ์ Master Distributor เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์โนเกีย (Nokia) ใน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี นครปฐม พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ และในส่วนของธุรกิจดิจิตอล TWZ ยังได้รับสิทธิ์ลำดับที่ 18 จาก 26 ราย ให้เป็นผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดย TWZ เป็นจุดรับคูปอง เพื่อกระจายสินค้ากล่องดิจิตอลทีวี โดยร่วมมือกับ FORTH
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2558 – 2559 บริษัทฯ มีแผนพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยภายในประเทศนั้น จะเน้นการดูแลกลุ่มตัวแทนจัดจำหน่ายเดิมของ TWZ อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังจะเดินหน้าหาพันธมิตรรุ่นใหม่หรือร้านค้ารุ่นใหม่ที่มีใจรักงานทางด้านธุรกิจโทรคมนาคม โดยเป้าหมายหลักของเราคือ มีร้านภายใต้แบรนด์ TWZ กระจายทั่วประเทศ ซึ่งสัดส่วนการขายภายในประเทศปี 2558 คาดว่ามีมูลค่า 5,000 ล้านบาท และการขายภายในประเทศปี 2559 คาดว่าจะมีมูลค่า 6,000 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ TWZ ลงทุนเพิ่มในบริษัท ปิยะชาติ จำกัด โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 50 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงแรกเริ่ม ได้ก่อสร้างโครงการเป็นขนาดกลาง โดยใช้ชื่อว่า “The Wiz รัชดา” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก บริษัทฯ จึงเดินหน้าโครงการต่อไปคือ โครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ “VIVACE” ที่พัทยาและระยอง โดยเรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหลังจากนี้ เรามีแผนที่จะนำบริษัท ปิยะชาติ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป โดยเป้าหมายสัดส่วนรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มเป็น 30%
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในการประชุมครั้งล่าสุด ยังได้มีมติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน719 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 26 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 55 สตางค์ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้อีก 390 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงชำระหนี้ตามที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
“สำหรับการกำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 55 สตางค์นั้น เป็นการประเมินจากศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ และเชื่อว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทุกรายจะใช้สิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และมีจำนวนมากที่จะจองเกินสิทธิ์ เหมือนการเพิ่มทุนครั้งที่ผ่านมา” ประธานกรรมการ TWZ กล่าว