ซีเอ เทคโนโลยี เผย ผลการศึกษาชี้บริษัทในเอเชียจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยุคแอพพ์มากที่สุด พร้อมระบุ ผู้บริหารกว่า 94% ชี้ถูกกดดันให้เปิดแอพพ์ใหม่ๆ เร็วขึ้นให้ทันตลาดเปลี่ยนเร็ว

ข่าวเทคโนโลยี Thursday November 27, 2014 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ซีเอ เทคโนโลยี เผยผลการศึกษาล่าสุด ชี้บริษัทระดับเอนเทอร์ไพรซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น(APJ) จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเศรษฐกิจยุคแอพพ์ เมื่อเทียบกับบริษัทจากทวีปอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและอัฟริกา(EMEA) โดยมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารธุรกิจและไอทีระดับสูงในภูมิภาค APJ บอกในการสำรวจว่ากำลังเห็นผลกระทบจากเรื่องนี้ต่ออุตสาหกรรมของตน (APJ:57%; ทวีปอเมริกา: 46%; EMEA: 45%) และมีอีก 53% ที่ระบุว่า เริ่มเห็นผลกระทบต่อบริษัทของตนบ้างแล้ว (ทวีปอเมริกา: 45%; EMEA: 35%) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นจะเริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่มีจากระบบเศรษฐกิจในยุคแอพพลิเชั่นแล้ว แต่ในขณะนี้ ยังมีน้อยกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (49%)เท่านั้นที่รู้สึกว่าตนเองรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงอุปสรรคสำคัญๆ อย่างเช่น การรักษาความปลอดภัยระบบ (41%) และ ติดขัดงบประมาณ (36%) เป็นต้น จากการวิจัยในครั้งนี้ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจ และเพื่องานรับมือกับเศรษฐกิจในยุคแอพพ์ ได้ทำให้บรรดาบริษัทเอนเทอร์ไพรซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นได้เริ่มเตรียมการต่างๆ ไปแล้วบ้างดังต่อไปนี้ · เพิ่มระดับการลงทุนด้วยอัตราเฉลี่ยที่ราว 18% ภายในช่วงเวลา 5 ปีถัดไปข้างหน้า · เริ่มนำงานพัฒนาซอฟต์แวร์กลับมาอยู่ภายในบริษัทมากขึ้น(4% เพิ่มขึ้นในช่วงเวลา 4 ปี ) · เข้าซื้อกิจการบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพงานซอฟต์แวร์ของตัวเองให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยพบว่า มีถึง 38% ได้ซื้อกิจการบริษัทซอฟต์แวร์ไปแล้ว หรือวางแผนที่จะทำในปีหน้า · ดำเนินการเรื่องแอพพ์ให้ลูกค้าไปแล้วอย่างน้อยเฉลี่ย 6 ราย ในตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยสถิติที่พบมี 42% ที่ได้พัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นให้กับลูกค้า 4 รายหรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ ผู้บริหารในสายงานธุรกิจต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องแรงกดดันของเศรษฐกิจยุคแอพพ์ โดยมียอดผู้บริหารจำนวนมากถึง 94% ที่ระบุว่า ตนกำลังเจอกับแรงกดดันให้ต้องเร่งออกซอฟต์แวร์แอพพ์ให้เร็วขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญ มาจากสาเหตุ ลูกค้าเร่งรัดความต้องการ (58%) และแรงกดดันจากการแข่งขัน (65%) ถึงแม้จะเร่งความเร็วในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้น (โดยเฉลี่ยทำได้ 6 แอพพ์สำหรับลูกค้าภายนอก และอีก 6 แอพพ์สำหรับงานภายในบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมา) แต่มีผู้บริหารในสายงานธุรกิจ 15% เท่านั้นที่พอใจเต็มที่กับความเร็วในนำเสนอแอพพลิเคชั่นและเซอร์วิสใหม่ๆ ดังนั้้น ผลก็คือกว่า 82% ของบริษัทเอนเทอร์ไพรซ์ที่มีการสำรวจได้มีการรับแนวคิดการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบDevOps มาใช้แล้ว หรือกำลังวางแผนที่จะมี เพื่อเร่งความเร็วในงานพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่อไป “จากการมาถึงของยุคอินเทอร์เน็ต ที่เว็บไซต์กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาพบได้ทั่วไป มาจนถึงปัจจุบันที่แอพพิเคลชั่นได้กลายมาเป็นปัจจัยพื้นฐานในทุกธุรกิจที่ต้องการจะอยู่รอดและเติบโตให้ได้ในยุคเศรษฐกิจแอพพ์ ” เคนเนธ อาเรนดอนโด ประธานและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น บริษัทซีเอ เทคโนโลยี กล่าวและเสริมว่า “ในภูมิภาคที่มีการใช้เน็ตมากอย่างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น งานแอพพลิเคชั่นกำลังสร้างบทบาทใหม่ในงานปฏิสัมพันธ์ติดต่อกับลูกค้าและบุกเบิกการขยายตัวทางธุรกิจ ซึ่งผลจากงานวิจัยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจทางไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า เร็วกว่าในยุคเศรษฐกิจแอพพ์ ” ช่องว่างในการใช้งานแอพพลิเคชั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ในงานศึกษาชิ้นนี้ได้มีการแยกกลุ่ม “ผู้นำ” และ “ทิ้งท้าย” ในระบบเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่น ซึ่งในการยอมรับยุคเศรษฐกิจแอพพ์นั้น ทางกลุ่ม “ผู้นำ” ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานว่าเหนือกว่ากลุ่ม “ทิ้งท้าย” ในการชี้วัดทุกรูปแบบมาตรฐานทางธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้ได้เกิดช่องว่างในการใช้งานแอพพลิเคชั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ ผลจากการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ในกลุ่ม “ผู้นำ” นั้นมียอดรายได้มากกว่าสี่เท่า และผลกำไรมากกว่าสามเท่า เมื่อเทียบกับกลุ่ม “ล้าหลัง” รวมทั้ง ทางกลุ่ม“ผู้นำ” ยังได้เปรียบเชิงธุรกิจจากช่องทางใหม่ๆ ทางโปรดักต์และเซอร์วิส มากกว่ากลุ่ม “ทิ้งท้าย” ถึงกว่าสองเท่า “ผู้นำ” ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ยังได้ใช้งานเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานใหม่ๆ หลายอย่างเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในยุคเศรษฐกิจแอพพ์ ดังต่อไปนี้ · 43% ของกลุ่ม“ผู้นำ” ได้ใช้ทั้งวิธีการและเทคโนโลยีที่สนับสนุนแนวคิด DevOps เพื่อเร่งอัตราการพัฒนาแอพพลิเคชั่น ในขณะที่กลุ่ม“ทิ้งท้าย” มีการริเริ่มเรื่องนี้ไปแค่ 4% เท่านั้น · กลุ่ม“ผู้นำ” มีค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาความปลอดภัยมากกว่ากลุ่ม “ทิ้งท้าย” และราวหนึ่งในสามของงบค่าใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมดในช่วงสามข้างหน้าจะถูกใช้เพื่อการนี้ในกลุ่มผู้นำ · กลุ่ม“ผู้นำ” จัดการงานเรื่องไอทีในแบบธุรกิจและมีประสิทธิภาพทางด้านงานไอทีเหนือกว่าในภาพรวม และมีแนวโน้มที่จะใช้ซอฟต์แวร์โปรแกรมทูลต่างๆ มาจัดการงานไอทีให้เป็นแบบธุรกิจมากกว่า และบ่อยครั้งกว่าเมื่อเทียบกันกับกลุ่มทิ้งท้าย · มากกว่าสองในสาม (69%) ของกลุ่ม“ผู้นำ” กำลังปรับมาใช้งานโมไบล์ทั่วทั้งบริษัท เพื่อเพิ่มความพอใจในการใช้งานของลูกค้า และออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ มีอัตราเพียง 14% เท่านั้น ในกลุ่ม “ทิ้งท้าย” วิธีการสำรวจและวิจัย ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้มีผู้นำกว่า 650 รายจากสายไอทีและธุรกิจ จากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น การเงินการธนาคาร สาธารณสุข อุตสาหกรรมการผลิต ค้าปลีก โทรคมนาคม และสื่อมวลชน/บันเทิง ใน 6 ตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เช่น ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมออกความเห็นในการศึกษาในครั้งนี้ที่ดำเนินงานโดยบริษัทวิจัย Vanson Bourne และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซีเอ เทคโนโลยี โดยการสำรวจในภูมิภาคนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจวิจัยตลาดระดับโลกที่รวมถึงในอีก 9 ประเทศสำคัญในตลาดทวีปอเมริกา และตะวันออกกลางและอัฟริกา EMEA

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ