กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--ปตท.
จากกรณีประเด็นข่าวโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ของมูลนิธิฯ อภัยภูเบศร ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และพื้นที่ชุมชน ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นั้น ได้มีความร่วมมือจากจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยราชการในพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และมูลนิธิฯ อภัยภูเบศร โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งได้มีมติเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ให้ย้ายการวางท่อเป็นแนวตะเข็บพื้นที่ของมูลนิธิฯ และได้รับการตอบรับจากมูลนิธิฯ เป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาประเมินเงินค่าชดเชย เพื่อตรวจสอบความเสียหายร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า สำหรับชุมชนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และ พื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้มีการร้องเรียนผ่านคณะกรรมการสิทธิ์มนุษยชน นั้น ก่อนหน้านี้ ทีมงาน ปตท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายมาโดยตลอด และได้ชดเชยค่าเสียหายเกือบครบถ้วนแล้ว ซึ่งจากความเห็นเพิ่มเติมของคณะอนุกรรมการสิทธิชุมชน ปตท. พร้อมจะดูแลแก้ไขปัญหาร่วมกับชุมชนและทางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืนและวิศวกรรมโครงการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน และได้พยายามแก้ไขปัญหาของชุมชน ต.เนินหอม และ ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ตลอดมาและต่อเนื่อง ซึ่งชุมชนส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขปัญหาและได้รับค่าทดแทนเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย
1. เงินค่าเยียวยาความเสียหายอันเนื่องมาจากการก่อสร้างล่าช้า ทำให้เจ้าของที่ดินไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ในระยะเวลาที่ ปตท. ก่อสร้าง โดย ปตท. ลงไปสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง และดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาดังกล่าวไปแล้ว ประมาณร้อยละ 92 ของเจ้าของที่ดินที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด ในส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความเสียหาย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558
2. การคืนสภาพพื้นที่เพื่อให้เจ้าของที่ดินสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรมได้ดังเดิม ที่ยังไม่เรียบร้อยในบางพื้นที่ ปตท. จะเร่งรัดประสานงานกับชุมชนและจังหวัดในการตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาแนวทางร่วมกัน โดยมีแนวทางที่ได้หารือไว้เบื้องต้น ทั้งการให้ ปตท.มาดำเนินการให้ หรือ จ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่เจ้าของที่ดินเพื่อดำเนินการเอง
สำหรับพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น เป็นพื้นที่ที่มีการวางท่อก๊าซฯ ของบริษัทเอกชนรายอื่นด้วย ซึ่งในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างของ ปตท. โดยตรง ปตท. ได้เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งได้จ่ายค่าเสียหายตามที่ได้ตกลงกันก่อนเริ่มการก่อสร้างแล้ว และอยู่ระหว่างหารือความเสียหายในส่วนเพิ่มเติมอยู่ โดยคาดว่าจะเป็นการหารือผ่านคณะกรรมการฯ กลางของจังหวัด ตามแนวทางที่คณะอนุกรรมการสิทธิฯ ได้ให้ความเห็นไว้ต่อไป
“ปตท. ขอเรียนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ได้ดำเนินการมากกว่าที่กฎหมายและภาครัฐกำหนด ทั้งการรับฟังความคิดเห็นตามกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อโครงการอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ปตท. ได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุดเพื่อดูแลชุมชนตามแนวทางและหลักเกณฑ์ของภาครัฐ เพื่อให้การก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติฯ แล้วเสร็จตามกำหนด อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศในการจัดส่งพลังงานให้แก่ทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึงกัน” นายอรรถพล กล่าวเสริมในตอนท้าย