กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
สำหรับคนทำงาน หรือ แม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษา คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องใช้ พื้นที่เก็บข้อมูล-บนกลุ่มเมฆ (Cloud Storage) ในการจัดเก็บและแชร์ข้อมูล ไม่ว่าข้อมูลจะใหญ่ขนาดไหน เดี๋ยวนี้ก็ส่งถึงได้เพียงไม่กี่วินาที แถมยังมีผู้ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ หลายเจ้าให้บริการคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็น OneDrive, Dropbox, Google Drive แต่ละเจ้าดึงกลยุทธ์ในการแข่งขันเพื่อดึงดูด ให้คนเข้ามาใช้ดาต้าสตอเรจของเขามากๆ โดยการเสนอพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 กิกะไบท์ 10 กิกะไบท์ 15 กิกะไบท์ เป็นต้น แตกต่างกันไป
ในฐานะผู้ใช้อย่างเราใครให้ฟรีก็รับไว้หมด ดังนั้น 1 คนก็จะมีแอคเคาท์หลายแอคเคาท์ เรียกได้ว่า สมัครไว้ก่อนเพื่อของฟรี แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับใช้เพียง 1 หรือ 2 แอคเคาท์เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบปัญหา ไฟล์แต่ละไฟล์ถูกจัดเก็บแยกกัน ทำให้จดจำตำแหน่งที่เก็บไฟล์ไม่ได้ และในที่สุดก็ไม่สามารถบริหารจัดการพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากปัญหาดังกล่าวทำให้ 2 นักศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ร่วมกันทำระบบผสานพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆหรือ โอเวอร์ไดรฟ์ (Overdrive) ในรูปแบบแอปพลิเคชั่นบนมือถือ และ เว็บแอปพลิเคชั่น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความต้องการในการใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ (Cloud Storage) จากหลายๆ แอคเคาท์หรือจากผู้ให้บริการหลายราย ให้มีความสะดวกสบาย เสมือนว่ากำลังใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆเพียงบัญชีเดียว
นายกันต์ อรัญชราธร หนึ่งในผู้พัฒนาโอเวอร์ไดรฟ์ เล่าว่า ระบบนี้ผู้ใช้เพียงเข้ามาลงทะเบียน ข้อมูลส่วนตัวจากนั้นก็สามารถเพิ่มแอคเคาท์ของผู้ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆ ที่เคยสมัครไว้ไม่ว่าจะเป็น Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive สามารถเพิ่มเข้ามาได้เรื่อยไม่จำกัด โดยโอเวอร์ไดรฟ์จะทำการจัดการบริหารพื้นที่เก็บข้อมูลให้ เช่น เมื่ออัพโหลดไฟล์แล้ว ไม่จำเป็น ต้องเลือกแอคเคาท์อีกครั้งให้วุ่นวาย รวมทั้งไม่ต้องคิดอีกต่อไปว่าอัพโหลดไว้ที่แอทเคาท์ไหนดีกว่ากัน ผู้ใช้ทำหน้าที่เพียงดาวน์โหลด จากนั้นระบบ Overdrive จะทำหน้าที่ดึงพื้นที่มาบริหารจัดการมาให้ ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถใช้งานดาวน์โหลดไฟล์ได้ปกติ เหมือนมีแอคเคาท์เดียว
ด้านนายธนพล ปิติฉัตร ผู้ร่วมพัฒนา Overdrive บอกว่า แม้ปัจจุบันจะมีแอพฯ คล้ายๆกับ Overdrive อยู่บ้าง แต่ Overdrive สร้างความแตกต่าง ที่นอกจากผู้ใช้จะสะดวกสบาย เหมือนใช้งาน อยู่บนแอคเคาท์เดียวแล้ว ในอนาคต Overdrive ยังจะมีพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลให้กับผู้ใช้ได้ใช้ฟรีๆ เช่นกัน และจุดเด่นของ Overdrive ยังอยู่ที่ไม่ได้มีแค่บนเว็บแอปพลิเคชัน เท่านั้น แต่ยังมีให้บริการได้ บนมือถืออีกด้วย