บ๊อช เผยผลประกอบการประจำปี 2557 เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจในประเทศไทย รักษาระดับยอดขายหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday June 2, 2015 17:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ • ยอดขายในประเทศไทยมูลค่า 9.4 พันล้านบาท (217 ล้านยูโร) • คาดการณ์ตลาดในประเทศไทยเติบโตขึ้น ในปี 2558 • พนักงานกว่า 1,100 คนในประเทศไทย (เมื่อเดือนเมษายน 2558) • ขยายการผลิตในประเทศในส่วนของธุรกิจโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อน บ๊อช ผู้พัฒนาและผลิตเทคโนโลยีและบริการชั้นนำระดับโลก เผยว่าประเทศไทยถือเป็นตลาดอันดับต้นที่สร้างรายได้สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดขายต่อบุคคลภายนอก 9.4 พันล้านบาท (217 ล้านยูโร) ในช่วงปีงบประมาณ 2557 หากรวมถึงยอดขายของบริษัทในเครือ และรายได้ระหว่างกัน ยอดขายรวมของบ๊อชในประเทศไทยอยู่ที่ 12.7 พันล้านบาท (295 ล้านยูโร) "ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญของเรา ทั้งในแง่ของฐานการผลิต และเป็นตลาดสำคัญต่อผลิตภัณฑ์และการบริการของเรา" มร. โจเซฟ ฮอง กรรมการผู้จัดการบ๊อช ประเทศไทย กล่าว สืบเนื่องจากการเข้าควบกิจการของ BSH Bosch und Siemens Hausgerate GmbH (ปัจจุบันคือ BSH Hausgerate GmbH) ทำให้จำนวนพนักงานของบ๊อชในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 คน เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 บ๊อชมองสภาพการของตลาดไทยในระยะยาว และขยายการผลิตในประเทศ จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2557 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัวร้อยละ 0.7 ในขณะที่การส่งออกลดลงร้อยละ 0.5 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 1 ในปี 2558 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานการผลิตรถยนต์ในประเทศ 1.88 ล้านคัน ซึ่งถือว่าลดลงร้อยละ 23.5 ในปี 2557 ในขณะที่ยอดขายยานยนต์ในประเทศลดลงร้อยละ 33.7 มร. โจเซฟ ฮอง กรรมการผู้จัดการบ๊อช ประเทศไทย กล่าวว่า "บ๊อชมองสภาพการณ์ของตลาดไทยในระยะยาว และเชื่อมั่นว่ามาตรการในการเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของบ๊อชในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะเป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจของบ๊อชในประเทศไทยเติบโตได้ในปี 2558" นอกจากดัชนีชี้วัดที่สะท้อนภาวะทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมือง และการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค มร.โจเซฟ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ท่ามกลางสภาวการณ์ที่ท้าทายของตลาดในประเทศ บ๊อชยังคงแผนในการขยายธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งในไทยต่อไป” ในปี 2014 บ๊อชได้ศึกษาโอกาสทางธุรกิจและศักยภาพในการขยายการผลิตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนของบ๊อช (Bosch Mobility Solutions) ซึ่งเดิมเรียกว่าธุรกิจเทคโนโลยียานยนต์ ได้ตั้งฐานการผลิตระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (Electronic Stability Program: ESP) รวมถึงชิ้นส่วนประกอบของระบบส่งกำลัง การพัฒนาภาคธุรกิจของบ๊อช ธุรกิจโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนของบ๊อชนั้น ได้รับผลกระทบจากสภาวะของตลาดยานยนต์ในประเทศที่ทรุดตัวลง สืบเนื่องจากความเชื่อมั่นของผุ้บริโภคที่ลดต่ำลง และจากการยกเลิกมาตรการทางภาษีสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์คันแรก ในขณะเดียวกัน การเติบโตยังถือว่าคงที่ในส่วนของการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในปี 2557 ทั้งนี้ ตลาดอะไหล่รถยนต์ได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ขยายการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ ขยายผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย และเสริมความแข็งแกร่งในพื้นที่ต่างจังหวัด ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของบ๊อชนับได้ว่าเติบโตขึ้น จากการคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ส่งผลให้เกิดความต้องการในการปรับปรุงระบบในสายการผลิตให้ทันสมัยมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมผลิตอาหารและยานยนต์ โครงการปรับปรุงโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้านไฟฟ้ายังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บ๊อชอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย ในภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นยังถือว่าไปได้ดี ทั้งนี้ ได้รับแรงผลักดันจากผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและมีอยู่หลากหลายของบ๊อช อาทิ เครื่องมือวัดด้วยเลเซอร์ที่ทันสมัย และอุปกรณ์ที่ล้ำยุคประเภทอื่นๆ รวมทั้งช่องทางการขายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น สำหรับในภาคธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและอาคารนั้น ก็ยังมีการขยายตัวในส่วนของหมวดผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสารและความปลอดภัย และคาดว่าจะยังขยายตัวต่อไปอีกเรื่อยๆในปี 2558 นี้ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (ซีเอสอาร์) กิจกรรมด้านซีเอสอาร์ในระยะยาวของบ๊อชนั้น ล้วนตั้งอยู่บนรากฐานของการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งต่อผู้คนในยุคปัจจุบันและรุ่นอนาคต เช่น โครงการฝึกงานด้านวิศวกรรมเมคคาโทรนิคส์ของบ๊อชในประเทสไทย ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสายวิชาชีพทั้งหลายได้เรียนรู้ทั้งในด้านทฤษฏีและปฏิบัติที่ได้ลงมือทำจริง ณ โรงงานผลิตเทคโนโลยีการบรรจุหีบห่อของบ๊อชที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ บ๊อชยังให้ความช่วยเหลือเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสทั้งหลายผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิ Primavera ที่ก่อตั้งโดยพนักงานบ๊อชที่เกษียณอายุแล้ว โครงการ 'Skills for Life' เป็นหนึ่งในโครงการตัวอย่างที่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเยาวชนชาวเขาด้อยโอกาสในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ ที่ตนเองถนัด เพื่อนำไปเป็นช่องทางหาเลี้ยงชีพตนเองได้ต่อไป บ๊อชและ Primavera ยังให้การสนับสนุนโครงการ Hand-to-Hand ในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ดูแลเด็กเล็กด้อยโอกาส ให้ได้รับโภชนาการและการอบรมเลี้ยงดูที่ดี รวมทั้งปูพื้นฐานทางการศึกษาให้เยาวชน ภาพรวมของธุรกิจกลุ่มบ๊อชในปี 2558 กลุ่มบริษัทบ๊อชคาดการณ์ยอดขายระดับโลกโดยรวมจะเติบโตขึ้น ภายใต้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ปรับตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 3 ถึง 5 ในปี 2558 จากการแถลงข่าวประจำปีครั้งล่าสุดของบ๊อชในเยอรมันนี มร. โวคมาร์ เด็นเนอร์ ประธานกรรมการบริหารของบ๊อช กล่าวว่า "ความแข็งแกร่งในเชิงเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่มั่นคงของบ๊อช ทำให้เราเดินหน้าเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจ" ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ และการให้บริการที่อาศัยการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเป็นจุดสำคัญต่อธุรกิจในอนาคตของบริษัท "เรากำลังผลักดันเรื่องการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตในทุกๆ ภาคธุรกิจของเรา และเน้นบทบาทในการผลักดันให้ธุรกิจการเชื่อมต่อดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น" มร. เด็นเนอร์กล่าวเสริม ในปี 2557 บ๊อชได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายที่ผสานการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต อาทิ ซอฟท์แวร์สำหรับระบบทำความร้อนอัจฉริยะ โซลูชั่นที่ออกแบบสำหรับอาคาร อุตสาหกรรมที่ผสานคุณลักษณะในการเชื่อมต่อ หรือกระทั่งการเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ตที่ผสานอยู่ในเทคโนโลยีการขับเคลื่อน และด้วยการควบรวมกิจการของ BSH Hausgerate GmbH และ Robert Bosch Automotive Steering GmbH ทำให้บ๊อชสามารถเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทในภาคการผลิตบ้านอัจฉริยะ และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ เอเชีย แปซิฟิก: นับเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บ๊อชเพิ่มยอดขายถึงร้อยละ 17 (ร้อยละ 19 หลังการปรับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ) ในปี 2557 หรือ 560 พันล้าน (13 พันล้านยูโร) ส่วนแบ่งยอดขายสำหรับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 27 ของยอดขายโดยรวม นับว่าสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ การเติบโตของยอดขายในภูมิภาคเห็นได้ชัดเจนในประเทศจีน ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 หรือประมาณ 276 พันล้านบาท (6.4 พันล้านยูโร)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ