สนพ ชู เอสซีจี มาตรฐานจัดเก็บถ่านหินระบบปิดแห่งแรกของไทย มุ่งลดผลกระทบชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 23, 2015 15:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--Triple J Communication นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมนับเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานสูงสุดของประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อหาเชื้อเพลิงจากพลังงานทดแทนมาใช้เพื่อลดต้นทุนทางการผลิต ซึ่งเชื้อเพลิงถ่านหิน เป็นพลังงานทางเลือกหนึ่งที่ สนพ. ส่งเสริมและสนับสนุน โดยในแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558-2579 หรือ แผน AEDP 2015 ฉบับใหม่ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม กพช. เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 11.9 เป็นร้อยละ 30 ของปริมาณความต้องการพลังงานรวมของประเทศในปี 2579 ปรับเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งสิ้นประมาณ 19,635 เมกะวัตต์ สำหรับถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมที่ใช้หม้อไอน้ำ เช่น โรงงานกระดาษ และโรงงานชูรส เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในการเผาไหม้ถ่านหินจะมีการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ออกไซด์ของไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ฝุ่นละออง และควัน ดังนั้น ก่อนนำเชื้อเพลิงไปใช้จะต้องหาวิธีการจัดการ กับมลพิษ โดยอาจเลือกใช้ถ่านหินคุณภาพดี หรืออาจลดปริมาณสารมลพิษในเชื้อเพลิง ก่อนนำไปใช้ หรือใช้เทคโนโลยี ในการกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้น ก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม สำหรับ บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่มีการจัดเก็บถ่านหินระบบปิดแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในองค์กรตัวอย่างที่มีการจัดการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการบริหารจัดการถ่านหินในระบบปิดทั้งการลำเลียง จัดเก็บ และขนส่ง เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้าน นายกิตติ พัฒนลีนะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงาน บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด ในเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า "ถ่านหิน เป็นวัตถุดิบพลังงานที่มีความจำเป็นในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม เอสซีจี จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาระบบการจัดเก็บและขนส่งถ่านหินเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด เอสซีจีลงทุน 400 ล้านบาทก่อสร้างระบบจัดเก็บถ่านหินแบบปิดแห่งแรกของไทย ด้วยเทคโนโลยีระดับสากลเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาถ่านหินคุณภาพสูง จัดซื้อ กองเก็บ คัดแยก และขนส่งให้กับลูกค้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าระบบดังกล่าวจะลดผลกระทบกับชุมชนและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมถ่านหินของประเทศไทย" จุดเด่นของระบบจัดเก็บถ่านหินของเอสซีจี คือ การลำเลียง จัดเก็บและขนถ่ายถ่านหินเป็นระบบปิดตลอดทั้งกระบวนการ เริ่มจากการขนถ่ายถ่านหินจากเรือลงสายพานแทนการใช้แรงงานคนตักใส่ และใช้สเปรย์น้ำพ่นเพื่อลดการฟุ้งกระจายของถ่านหิน นอกจากนั้นยังมีการคัดแยกวัสดุปลอมปน และติดตั้งเครื่องดักจับฝุ่นก่อนนำเข้าโกดังกองเก็บ ภายในโรงกองเก็บถ่านหินระบบปิดยังมีเครื่องจักรกองถ่านหินแทนการใช้แรงงานคน รวมถึงติดตั้งเครื่องกำจัดฝุ่น ถุงกรองฝุ่นตลอดแนวสายพาน ก่อนนำถ่านหินไปเก็บไว้ในไซโลปิดขนาดใหญ่เพื่อเตรียมจ่ายส่งให้ลูกค้า เอสซีจี กำหนดให้รถบรรทุกทุกคันต้องคลุมผ้าใบมิดชิด ทำความสะอาดล้อรถด้วยบ่อล้างล้อและพ่นสเปรย์น้ำรอบคันรถก่อนออกจากโรงงานทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งเครื่องเก็บเสียงบริเวณสายพานเพื่อลดเสียงรบกวน และบ่อบำบัดน้ำภายในพื้นที่เพื่อนำน้ำกลับมาใช้หมุนเวียนภายในโครงการ นอกจากนี้ เอสซีจี ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มรักษ์ชุมชนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และธุรกิจนำเข้าถ่านหินในพื้นที่ อ.นครหลวง โดยวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานการทำงานและการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ให้อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ