กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--มายด์ พีอาร์
อัลไลด์ เทเลซิส เปิดตัวสวิตช์ระดับกิกะบิตสำหรับอุตสาหกรรมซีรีส์ใหม่ ไออี510 ซีรีส์ เพื่อรองรับแนวโน้มการเพิ่มจำนวนอย่างมหาศาลของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผู้นำด้านระบบเครือข่ายไอพีเดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตสำหรับอุตสาหกรรม
บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส ผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับโลกสารสนเทศที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมด้วยการเปิดตัวสวิตช์ระดับกิกะบิตซีรีส์ใหม่ ไออี 510 ซีรีส์ ( IE510 Series) ที่สามารถขยายสแตค (stack) เพื่อรองรับการเชื่อมต่อที่มากขึ้น
ไออี 510 ซีรีส์ จะเข้ามาเสริมความสมบูรณ์ให้กับสวิตช์อีเทอร์เน็ตรุ่น ไออี200 ซีรี่ส์ (IE200 Series) ที่มี อยู่เดิมและยังเหมาะสำหรับใช้เป็นสวิตช์หลักหรือสวิตช์สลับสัญญาณสำหรับแอพพลิเคชั่นอุตสาหกรรมด้วย เมื่อ มีการปรับใช้ร่วมกับไออี 200 ซีรีส์ สวิตช์ไออี 510 ก็จะยิ่งพร้อมให้การรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ เช่น กล้อง ซีซีทีวี ระบบการทำงานอัตโนมัติของอุตสาหกรรม และระบบจัดการอาคาร หรือสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่จำกัด
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ไออี 510 ซีรีส์ รุ่นแรกที่จะเปิดตัว ได้แก่ เอที – ไออี 510 - 28จีเอสเอ็กซ์ (AT-IE510-28GSX) ซึ่งมาพร้อมช่องเอสอีพี (SEP) จำนวน 24 ช่อง และพอร์ตอัพลิงก์ 1/10 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) เพิ่มอีก 4 พอร์ต รวมทั้งสามารถปรับขยายได้โดยใช้ อัลไลด์ เทเลซิส เวอชวล แชสซิส สแตกิ้ง (Allied Telesis Virtual Chassis Stacking) หรือ วีซีสแตค (VCStack™) นอกจากนี้ สวิตช์ดังกล่าวยังให้คุณสมบัติขั้นสูงที่พบได้ในระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ อัลไลด์ เทเลซิส อัลไลด์แวร์ พลัส (Allied Telesis AlliedWare Plus™) ซึ่งครอบคลุมอีเทอร์เน็ต โปรเทคชั่น สวิตซ์ ริ่ง 1(Ethernet Protection Switched Ring หรือ อีเอสพีริ่ง EPSRing™) ซึ่งระบบการทำงานอัตโนมัติที่ใช้เขียนสคริปต์และการสั่งงาน รวมทั้ง อัลไลด์ เทเลซิส แมเนจเม้นท์ เฟรมเวิร์ก หรือ เอเอ็มเอฟ (Allied Telesis Management Framework™ (AMF))
จะเห็นได้ว่าอีพีเอสริ่ง (EPSRing) ให้การกู้คืนระบบที่รวดเร็วกว่าเทคโนโลยีดั้งเดิม ทำให้มั่นใจได้ว่าฟังก์ชันการทำงานด้านเครือข่ายจะได้รับการกู้คืนให้กลับมาใช้งานได้อย่างเป็นปกติในกรณีที่เกิดการล้มเหลว โดยที่แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้และแอพพลิเคชั่นแม้แต่น้อย นอกจากนี้ AMF ยังช่วยลดเวิร์กโหลดในแต่ละวันให้กับผู้จัดการด้านเครือข่ายด้วยการจัดเตรียมเทคโนโลยีที่ทำให้งานบริหารจัดการทั่วไปเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การทดแทนชุดอุปกรณ์ที่ทำงานล้มเหลว การปรับเปลี่ยนการกำหนดค่า การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ หรือการขยายเครือข่าย เอเอ็มเอฟ ยังช่วยให้ผู้แลระบบไอทีมีส่วนควบคุม (คอนโซล) สำหรับจัดการเครือข่ายแบบครบวงจร ตลอดจนสามารถติดตั้งอุปกรณ์และกู้คืนระบบได้โดยไม่ต้องลงมือเอง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเงินได้อย่างมาก สิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่องค์กรมีการใช้งานอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก
บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส มีบทบาทอย่างมากในการนำเสนอ IPv6 ให้กับตลาดเครือข่ายกระแสหลักมาเป็นเวลานาน ทั้งยังสนับสนุน IPv6 ให้สามารถใช้งานร่วมกับไออี 510 ซีรีส์ ได้ ซึ่งนั่นทำให้การปรับใช้และการจัดการเครือข่าย IPv6 ทั้งระบบสามารถทำได้โดยง่าย สิ่งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแอพพลิเคชั่นอุตสาหกรรมและแอพพลิเคชั่นฝังตัวที่ซึ่งมีการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์และสิ่งต่างๆ เป็นจำนวนมากและกำลังขยายตัวอย่างมหาศาลภายใต้แนวโน้มอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT)
"ทั้งนี้ อัลไลด์ เทเลซิส ไออี510 ซีรีส์ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้การรองรับระบบและการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ อย่างครอบคลุม โดยจะต้องมีโซลูชั่นที่มีคุณสมบัติครบครันและมีความเชื่อถือได้ระดับสูงในการรองรับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากกว่าที่เคยเป็นมา" นายเซอิจิโร ซาโต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ส่วนกลาง บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส กล่าว และว่า "สิ่งนี้รวมถึงระบบกล้องวงจรปิดแบบไอพี การขนส่งอัจฉริยะ และแอพพลิเคชั่นแบบฝังตัวอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย รวมทั้งแอพพลิเคชั่นแบบฝังตัวที่ซึ่งความมีเสถียรภาพและการจัดการที่ง่ายดายถือเป็นสิ่งสำคัญ บริษัท อัลไลด์ เทเลซิสมีความมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบเครือข่าย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะช่วยให้บรรลุผลด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน ถือเป็นการสานต่อประวัติศาสตร์ด้านนวัตกรรมของเราในการตอบสนองความต้องการด้านเครือข่ายแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IE510 Series โปรดดูที่ alliedtelesis.com/switches/industrial