บล.เอเชีย เวลท์ คาดยุโรปมีความเสี่ยงเรื่อง Frexit คาด SET Index เคลื่อนไหวแบบ Sideway

ข่าวเทคโนโลยี Monday February 27, 2017 11:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--บล.เอเชีย เวลท์ บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า ความเสี่ยงจากการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ที่อาจเกิด Frexit และการรอการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ในวันอังคาร ซึ่งตลาดเริ่มกลัวว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์กว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมน่าจะเป็นปีหน้า ทั้งหมดนี้ยังคงกดดันตลาดแต่กลับทำให้เงินทุนโลกยังคงอยู่ในเอเชีย คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,557-1,578 จุด พร้อมแนะนำซื้อ GLOBAL นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่าหุ้นจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ แบบ Sideway จากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มหยุดชะงัก เนื่องจากรอ นายโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงนโยบายเศรษฐกิจในวันอังคาร โดยที่ตลาดเริ่มกลัวว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์กว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมน่าจะเป็นปีหน้า อีกทั้งความเสี่ยงในยุโรปทางด้านการเมืองสูงขึ้นอีกหลังจากที่ผลสำรวจการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาว่า นางมารีน เลอ แปน ซึ่งมีนโยบายจะนำฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป หรือที่เรียกว่า Frexit และนโยบายที่จะไม่ใช้สกุลเงินยูโรแต่จะกลับมาใช้เงินฟรังก์ฝรั่งเศสแทน มีคะแนนนำจนอาจจะชนะเลือกตั้งได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงทางการเมืองในยุโรป อีกทั้งความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะดูเป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดการเงินโลก แต่กลับเป็นผลบวกต่อเอเชีย เพราะเงินทุนที่คาดว่าจะไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียไปยังสหรัฐฯ กลับยังคงอยู่ในตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยเอง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รายงานว่ามีเม็ดเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาในประเทศพอสมควร นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์สุดท้ายในการประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 4/59 ของไทยและสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขออกมาดี ทั้งนี้ คาด SET Index จะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,557-1,578 จุด นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้าน Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ GLOBALของ บริษัท สยาม โกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 19.76 บาท เนื่องจาก ได้ประโยชน์จากการอุปโภคและบริโภคภาคครัวเรือนฟื้นตัว อัตราการขยายตัวภาคการบริโภค ไตรมาส 4/59 โต 2.5% โดยที่ในปีนี้น่าจะโต 3% ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนของภาครัฐและเอกชน และความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ทั้งนี้ ตัวเลขกำไรสุทธิไตรมาส 4/59 เติบโต 81% YoY และ 20% QoQ มากกว่าค่าเฉลี่ยคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เท่ากับ 26% เพราะมีการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขา และเพิ่มสินค้าของตนเอง(House brand) และสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะให้อัตรากำไรที่ดีกว่า และ GLOBAL ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าเปิดสาขาภายในประเทศเพิ่มอีก 8 สาขาในปีนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทคงมองหาการลงทุนในประเทศกลุ่ม CLMV ซึ่งยังล้าหลังในโครงสร้างพื้นฐานอยู่มาก โดยหวังจะเปิดสาขาแรกในกัมพูชาภายในสิ้นปีนี้ ในระยะสั้น GLOBAL น่าจะมีกำไรสต็อกเหล็กเพราะมีสต็อกเหล็กต้นทุนต่ำอยู่ในขณะที่ราคาเหล็กจริงเพิ่มขึ้น เราเชื่อว่าการเติบโตแข็งแกร่งน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ จากประมาณการของ Bloomberg consensus คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 25% และ 21% YoY ในปี 60 และปี 2561 ตามลำดับ ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ GLOBAL มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ซึ่งบ่งบอกว่าจะได้เห็นการทำ New High อีกด้วย โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 19.10 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 21.80 บาท ทั้งนี้ GLOBAL มีจุด Stop Lossระยะสั้นอยู่ที่ 17.30 บาท และมีแนวต้านที่ 18.20, 18.40, และ 18.50 บาท และมีแนวรับ ที่18.00, 17.90, และ 17.70 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ