กลุ่ม CHO คว้างานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) มูลค่าโครงการ 1,665 ลบ. ทยอยรับรู้ถึงปี”65

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 15, 2017 14:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--IR network บมจ. ช ทวี หรือ CHO พร้อมพันธมิตรทั้ง 4 รายได้แก่ บริษัท จัมป์ อัพ จำกัด , บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด และ Tmoney จากประเทศเกาหลี ในนามกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ได้รับประกาศจากทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่าเป็นผู้ชนะการประมูลงานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จำนวน 2,600 คัน มูลค่าโครงการประมาณ 1,665 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2561 – 2565 นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในนามกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงานโดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จำนวน 2,600 คัน จากทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มูลค่าโครงการ 1,665,000,000 บาท ระยะสัมปทาน 5 ปี โดยบริษัทฯ จะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ในการประมูลงานในครั้งนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรอีก 4 ราย ได้แก่ บริษัท จัมป์ อัพ จำกัด , บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด และ Tmoney จากประเทศเกาหลี ซึ่งแต่ละองค์กรมีความเชี่ยวชาญ ความสามารถเฉพาะทาง และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการร่วมกันทำงานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทุกประการ "โครงการนี้จะมีการติดตั้งระบบ e-Ticket และเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือ Cash box ในรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จำนวน 2,600 คัน ตามมาตรฐานบัตรร่วมของกระทรวงคมนาคม ระยะเวลาสัมปทานเช่า 5 ปี ซึ่งทางกลุ่มฯ ได้คิดค้นเทคโนโลยีต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคนกรุงเทพฯ เพื่อทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่ายด้วย โดยภายในระยะเวลา 120 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ต้องมีการติดตั้งระบบ e-ticket สำหรับรถโดยสารประจำทาง จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คัน และ ภายใน 180 วัน ต้องติดตั้งรวม 800 คัน รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ระบบ e-ticket สามารถใช้งานได้ตั้งแต่อุปกรณ์บนรถโดยสารประจำทาง ระบบสารสนเทศที่เขตการเดินรถ ที่ส่วนกลางของขสมก. และกระทรวงคมนาคม" นายสุรเดช กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ