อินทัช โดยโครงการอินเว้นท์ ร่วมลงทุนกับ ดิจิโอ สตาร์ทอัพฟินเทค ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการชำระเงินแบบ mPOS อันดับหนึ่งในไทย

ข่าวเทคโนโลยี Friday June 30, 2017 12:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการอินเว้นท์ (InVent) ร่วมลงทุนกับ บริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการระบบชำระเงิน และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) อันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยดิจิโอจะนำเงินลงทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ และร่วมมือกับอินทัชในการผลักดันการใช้ระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในภาคธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล รวมถึงการขยายธุรกิจของบริษัทไปสู่ประเทศในกลุ่มอาเซียนต่อไป นายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน และหัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุน อินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "อินทัช เน้นการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งโครงการ อินเว้นท์ เป็นตัวขับเคลื่อนที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของอินทัช ตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิด "Connecting Thais for Sustainable Growth" เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น ผู้บริโภค ชุมชน และสังคม ดังนั้น เราจึงสนใจที่จะลงทุนในฟินเทคซึ่งจะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนไทย และช่วยยกระดับการทำธุรกรรมทางการเงินให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยในการทำธุรกรรมทางการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่สะดวก รวดเร็วขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โทรศัพท์มือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ไม่สามารถขาดได้ การใช้จ่ายเงินเริ่มเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และในอนาคตอันใกล้น่าจะถึงยุคของการใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเรามีการเตรียมการล่วงหน้าไว้อยู่แล้วโดยมีเอ็มเปย์ (mPAY) เป็นหัวเรือหลัก การที่ได้ร่วมลงทุนในดิจิโอ ซึ่งถือเป็นบริษัทฟินเทคชั้นแนวหน้าของประเทศนับว่าน่ายินดีอย่างยิ่ง" "ปัจจุบัน อินทัชสนใจลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน มีฐานลูกค้า มีสินค้าหรือบริการออกสู่ตลาดแล้ว และสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้า และบริการได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริษัทในกลุ่มอินทัช สามารถนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่คิดค้นได้มาเสริมศักยภาพทางธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้ในอนาคต ทั้งนี้ สตาร์ทอัพที่ได้ร่วมทุนจะได้รับเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ความรู้ในด้านต่างๆ เช่น การเงิน บัญชี กฎหมาย และการเข้าถึงฐานลูกค้าในกลุ่มอินทัชอีกด้วย" บริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ดิจิโอ ประกอบธุรกิจการพัฒนาและให้บริการระบบชำระเงินแบบเบ็ดเสร็จ แก่สถาบันการเงินหรือธุรกิจที่ต้องการมีระบบชำระเงินเป็นของตนเอง รวมถึงให้บริการระบบการรับชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile point of sale : mPOS) แก่สถาบันการเงินเพื่อนำไปให้บริการต่อแก่ลูกค้าของสถาบันการเงินที่ต้องการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องรับบัตร EDC ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า โดยดิจิโอร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ ได้ให้บริการเครื่อง mPOS ไปแล้วกว่าแสนเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตอบรับนโยบาย National e-Paymentของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย นายนพพร ด่านชัยนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ผมมองเห็นความสำคัญของระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว จึงได้ก่อตั้ง ดิจิโอ ขึ้นมาเพื่อมาตอบโจทย์เรื่องนี้ โดยเริ่มจากการนำเทคโนโลยี mPOS เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อแก้ปัญหาร้านค้าขนาดเล็กอยากรับบัตรเครดิต แต่ติดที่ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์รับบัตรยังสูงมาก ทำให้ร้านค้าเล็กๆไม่สามารถรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ ตัว mPOS จะเข้ามาแก้ปัญหาในส่วนนั้น ปัจจุบัน ดิจิโอสามารถรองรับการจ่ายเงินด้วย e-wallet ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Alipay หรือWeChat Pay ซึ่งมีความนิยมสูงขึ้นมากเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนใช้บริการเพิ่มขึ้น" "เราจะนำเงินลงทุนที่ได้จากอินทัช ไปใช้ในการขยายทีมงานเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในประเทศ และจะมุ่งเน้นบริการด้านความปลอดภัย (security solution) ในระบบชำระเงินให้มากขึ้น พร้อมกันนั้น จะศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายบริการสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งทางอินทัชจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือตรงส่วนนี้ด้วย" นายนพพร กล่าวเพิ่มเติม โครงการอินเว้นท์เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ 11 ต่อจาก Social Nation ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการกระจายโฆษณาแบบเสมือนจริง (Virtual Reality Ad Distribution Platform) และ Wongnai สตาร์ทอัพรีวิวร้านอาหาร ซึ่งอินเว้นท์ได้ลงทุนไปในปี 2559 ที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ