QTC ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 25, 2017 10:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน)หรือ "QTC" เปิดเผยว่า QTC ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท เจริญ เซกอง กรุ๊ป จำกัด ("CSG")ซึ่งเป็นบริษัทลาวที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายโครงการในประเทศลาว โดย CSG ตกลงให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Right) แก่ QTC ในการศึกษาข้อมูล และตรวจสอบสถานะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาวจำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 164 เมกะวัตต์ โดย CSG ตกลงที่จะไม่เจรจาหรือเข้าทำสัญญาใดๆ ไม่ว่าโดยตรงกับโดยอ้อมแก่บุคคลอื่นในระหว่างระยะเวลาที่ได้ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับ QTC อย่างไรก็ดี QTC ไม่มีความผูกพัน ที่จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบันทึกความเข้าใจเป็นข้อตกลงเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในเบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทั้งสองโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ QTC เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน QTC ได้ดำเนินการตามแผนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแล้วสองโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC รวมจำนวน 33.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Minbu ที่ประเทศเมียนมาร์ กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 170 เมกะวัตต์ (หรือคิดเป็น 25.5 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในปี 2561 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 8 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่ปี2554 โดย QTC ได้รับโอนหุ้นของ L Solar 1 จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา และคาดว่า QTC จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1 นอกจากนี้ ในงวด 6 เดือนของปี 2560 รายได้จากธุรกิจหม้อแปลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเอง ก็ได้ปรับตัวดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 ตามความต้องการซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าในตลาดที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ QTC สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามความตั้งใจของ QTC

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ