รองนายกฯ ประจินฯ หนุน “ดีอี” ผนึก “หัวเว่ย” ลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบคลาวด์-บิ๊กดาต้า เปลี่ยนผ่านประเทศสู่ยุคอุตสาหกรรมดิจิทัล

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday November 21, 2017 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.อ. ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี สนับสนุนกระทรวงดิจิทัลฯ จับมือ "หัวเว่ย" ลงนามบันทึกความเข้าใจในความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มั่นใจการลงทุนของ "หัวเว่ย" ในอีอีซี จะเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตด้านดิจิทัล พร้อมเตรียมแผนการพัฒนาเรื่องคลาวด์ และบิ๊กดาต้า เปลี่ยนผ่านประเทศสู่ยุคอุตสาหกรรมดิจิทัลเต็มตัว พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ภายใต้วิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลโดยมีนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน และอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงฯ และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น รวมถึงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในหลาย ๆ ด้านของคนไทยให้ดีขึ้นอีกด้วย บริษัท หัวเว่ยฯ เป็นผู้จัดหาโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก โดยบทบาทการมีส่วนร่วมของหัวเว่ยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตทั่วโลก และเพื่อรองรับการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคของหัวเว่ยให้เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เตรียมที่จะลงทุนสร้างคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดยักษ์แห่งแรกของภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจและเลือกทำเลที่ตั้ง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการเร่งดำเนินการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ในเฟสแรก ด้าน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการลงนามความร่วมมือกับภาคเอกชนครั้งใหม่ว่า การลงทุนของหัวเว่ย ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งหัวเว่ยได้แสดงความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรหลักของไทยในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศ รวมถึงเป็นบริษัทชั้นนำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ และเป็นพันธมิตรที่พร้อมจะดำเนิน กลยุทธ์คลาวด์ (Cloud) และบิ๊กดาต้า (Big Data) ไปด้วยกัน สำหรับบันทึกความเข้าใจที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกันยังรวมถึงการจัดหาบริการที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมลาวด์และบิ๊กดาต้าของไทย การขยายโอเพ่นแพลตฟอร์มเพิ่มเติม อาทิ โอเพ่นแล็บ และศูนย์นวัตกรรมโซลูชั่น CSIC ของหัวเว่ย การเร่งพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที และการช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพและ SME ขยายตัวเติบโตได้ดียิ่งขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2559 และ 2560 ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวเว่ยได้ให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับ 3 ภาคส่วนสำคัญ อันได้แก่ สังคมสูงวัย เกษตร และท่องเที่ยว อีกทั้งได้เผยแพร่รายงานเชิงลึก พร้อมแนะให้ประเทศไทยลงทุนด้านการใช้งานโครงสร้างอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และคลาวด์คอมพิวติ้งให้มากขึ้น ปรับปรุงรูปแบบนวัตกรรมที่มีอยู่ และเพิ่มการลงทุนด้านการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีรุ่นต่อ ๆ ไปให้มากขึ้นเป็นสองเท่า การเป็นพันธมิตรของหัวเว่ยกับกระทรวงดิจิทัลฯ รวมไปถึงแผนการลงทุนของหัวเว่ยในการสร้างคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในประเทศไทย ถือเป็นผลิตผลอันเป็นรูปธรรมของรายงานเชิงลึกนี้ ในส่วนของ มร. เฉียง หัว กรรมการผู้จัดการ หัวเว่ย ประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีคลาวด์จะเป็นเสมือนเสาหลักของโลกอัจฉริยะแห่งอนาคต "การลงทุนด้านคลาวด์คอมพิวติ้งและการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จะช่วยผลักดันการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0" "สิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัล และด้วยการสร้างคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย หัวเว่ยหวังที่จะช่วยให้รัฐบาลและภาคธุรกิจของไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลได้ง่ายดายขึ้น ตลอดจนกระตุ้นให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ สามารถวางแผนการปรับใช้งานโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของพวกเขาในเชิงรุกได้ และวางตำแหน่งอีอีซีให้เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย" ทั้งนี้ หัวเว่ยมีความยินดีที่จะใช้ศักยภาพในด้านนวัตกรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นอันมีคุณภาพของหัวเว่ย ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลในทุกภาคอุตสาหกรรม ความพยายามเหล่านี้จะช่วยเร่งกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และทำให้คนไทยได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ดีได้รวดเร็วยิ่งขึ้น "หัวเว่ยจะสร้างไฮบริดคลาวด์เพื่อรองรับรัฐบาล รวมทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และผู้ใช้รายย่อยในประเทศไทย การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ทุกๆ คนในทุกระบบนิเวศสามารถใช้เทคโนโลยีได้ดีขึ้น ทั้งบิ๊กดาต้า คลาวด์คอมพิวติ้ง อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตก้าวหน้าขึ้น" มร. เฉียง หัว กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ