ไฟไหม้สต๊อคยางพารา บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด จังหวัดตรังมีการประกันอัคคีภัยไว้กับ 7 บริษัท

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 16, 2004 09:55 —คปภ.

          นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่าตามที่ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้สต๊อคยางพาราของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 13/1 ถนนจริงจิตร ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2547 นั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายและการทำประกันภัยทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า มีการทำประกันอัคคีภัยซึ่งให้ความคุ้มครองถึง ไฟไหม้ ฟ้าผ่า และการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อ การอยู่อาศัย นอกจากนี้ผู้เอาประกันภัยยังซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมถึง ภัยลมพายุ ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยทางอากาศ ภัยน้ำท่วม ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยไฟป่า ภัยแผ่นดินไหว ภัยระเบิด ภัยจลาจลและนัดหยุดงาน และภัยจากการกระทำอย่างป่าเถื่อนหรือการกระทำอันมีเจตนาร้าย ไว้ในวงเงิน เอาประกันภัยทั้งสิ้น 600 ล้านบาท กับ 7 บริษัท ตามสัดส่วนจำนวนเงินเอาประกันภัย ดังนี้ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) 150 ล้านบาท บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) 150 ล้านบาท บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์ 90 ล้านบาท บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 60 ล้านบาท บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) 60 ล้านบาท บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันส์ จำกัด สาขาประเทศไทย 60 ล้านบาท และบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) 30 ล้านบาท 
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าความเสียหายส่วนใหญ่ที่เกิดกับโรงงานยางพาราหรือสต๊อคยางพารา นั้น มักจะเกิดจากเพลิงไหม้ ดังนั้น การที่ผู้เอาประกันภัยได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ ก็เป็นการบริหารการเสี่ยงภัยของบริษัท ศรีตรังฯ โดยการโอนความเสี่ยงไปให้บริษัทประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นการประกันภัยจึงเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทาง การเงินได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น จึงขอให้เจ้าของทรัพย์สินที่จะทำประกันภัยได้สำรวจความเสี่ยงภัยที่มีต่อทรัพย์สินของท่านก่อนทำประกันภัยเพื่อให้การประกันภัยได้เข้ามารองรับความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัย สำหรับความเสียหายที่แท้จริงนั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจและประเมินของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกรมการประกันภัยจะได้เร่งรัดให้บริษัท ประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ โทร. 0-2547-4548 หรือสายด่วนกรมการประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.doi.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ