1. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การเปิดหีบอ้อยปีนี้ล่าออกไป
เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้เปิดเผยว่า การเปิดหีบอ้อยปีนี้จะเลื่อน ออกไปจากเดิมในเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนธันวาคม เนื่องจากปริมาณอ้อยมีน้อย และคณะกรรมการบริ หารได้มีมติให้ตัดราคาอ้อย สำหรับอ้อยที่ไฟไหม้ประมาณ 20 บาทต่อตันอ้อยและจะเพิ่มให้กับผู้ที่ส่ง อ้อยสดเข้าสู่โรงงานประมาณ 10 บาท เพื่อแก้ปัญหาการเผาอ้อยก่อนตัดเข้าสู่โรงงาน
ส่วนทางด้านน้ำตาลที่จะใช้บริโภคภายในประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายแพทย์วิชัย จิตวณิชกุล ได้ยืนยันว่าจะไม่มีการขาดแคลนและไม่มีการขึ้นราคาน้ำตาลทรายอย่าง แน่นอน โดยทางผู้ผลิตน้ำตาลได้ยืนยันว่ายังมีน้ำตาลสำหรับบริโภคภายในประเทศถึง 3 ล้านกระอบ เพียงพอถึงเดือนธันวาคม
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
ออสเตรเลียและไทยจะเป็นผู้ขายน้ำตาลรายใหญ่
ออสเตรเลียและไทยจะเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลก ใน 8 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ จากรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่จะแจกในการประชุม Asia pacific Sugar ได้คาดว่าออสเตรเลียจะขยายการผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านตัน ในปี 2548 จากจำนวน 5.9 ล้านตัน ในปี 2540 และคาดว่าจะมีน้ำตาลที่จะใช้ส่งออกได้ปริมาณ 6.5 ล้านตัน ขณะ ที่ประเทศไทยคาดว่าจะผลิตน้ำตาลได้ 9.0 ล้านตัน ในปี 2548 และจะมีน้ำตาลส่งออกได้ประมาณ 6.6 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลให้กลายเป็นคู่แข่งขันกันในภูมิภาคนี้
สำหรับผู้ผลิตน้ำตาลรายอื่น ๆ ในปี 2548 เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะมี ปริมาณผลผลิตค่อนข้างคงที่อยู่ในระดับ 6.6 ล้านตันและปริมาณการนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 ล้านตัน อินเดียคาดว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 19.0 ล้านตัน และมีการนำเข้าลดลงเหลือ 1.4 ล้านตัน และอิน โดนีเซียคาดว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านตัน และมีการนำเข้าน้ำตาลจำนวน 500,000 ตัน ส่วนประเทศญี่ปุ่นคาดว่าปริมาณการนำเข้าจะลดลงเหลือ 1.4 ล้านตัน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 165.74 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 10.48 บาท) ลดลงจากตันละ 169.23 ปอนด์สเตอลิง ของ สัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.06 ส่วนราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 10.26 บาท ของ สัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.14
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลอดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 273.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.50 บาท) ลดลงจากตันละ 274.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.51 ส่วนราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก กิโลกรัมละ 10.24 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.54
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 296.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 11.39 บาท) ลดลงจากตันละ 297.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.26 ส่วนของราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก กิโลกรัมละ 11.09 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.71
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาย ณ ตลาดโตเกียวเฉลี่ยสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 44 ประจำวันที่ 27 ต.ค.-2 พ.ย. 2540--
การเปิดหีบอ้อยปีนี้ล่าออกไป
เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้เปิดเผยว่า การเปิดหีบอ้อยปีนี้จะเลื่อน ออกไปจากเดิมในเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนธันวาคม เนื่องจากปริมาณอ้อยมีน้อย และคณะกรรมการบริ หารได้มีมติให้ตัดราคาอ้อย สำหรับอ้อยที่ไฟไหม้ประมาณ 20 บาทต่อตันอ้อยและจะเพิ่มให้กับผู้ที่ส่ง อ้อยสดเข้าสู่โรงงานประมาณ 10 บาท เพื่อแก้ปัญหาการเผาอ้อยก่อนตัดเข้าสู่โรงงาน
ส่วนทางด้านน้ำตาลที่จะใช้บริโภคภายในประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายแพทย์วิชัย จิตวณิชกุล ได้ยืนยันว่าจะไม่มีการขาดแคลนและไม่มีการขึ้นราคาน้ำตาลทรายอย่าง แน่นอน โดยทางผู้ผลิตน้ำตาลได้ยืนยันว่ายังมีน้ำตาลสำหรับบริโภคภายในประเทศถึง 3 ล้านกระอบ เพียงพอถึงเดือนธันวาคม
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
ออสเตรเลียและไทยจะเป็นผู้ขายน้ำตาลรายใหญ่
ออสเตรเลียและไทยจะเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลก ใน 8 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ จากรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่จะแจกในการประชุม Asia pacific Sugar ได้คาดว่าออสเตรเลียจะขยายการผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านตัน ในปี 2548 จากจำนวน 5.9 ล้านตัน ในปี 2540 และคาดว่าจะมีน้ำตาลที่จะใช้ส่งออกได้ปริมาณ 6.5 ล้านตัน ขณะ ที่ประเทศไทยคาดว่าจะผลิตน้ำตาลได้ 9.0 ล้านตัน ในปี 2548 และจะมีน้ำตาลส่งออกได้ประมาณ 6.6 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลให้กลายเป็นคู่แข่งขันกันในภูมิภาคนี้
สำหรับผู้ผลิตน้ำตาลรายอื่น ๆ ในปี 2548 เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะมี ปริมาณผลผลิตค่อนข้างคงที่อยู่ในระดับ 6.6 ล้านตันและปริมาณการนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 ล้านตัน อินเดียคาดว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 19.0 ล้านตัน และมีการนำเข้าลดลงเหลือ 1.4 ล้านตัน และอิน โดนีเซียคาดว่าจะผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านตัน และมีการนำเข้าน้ำตาลจำนวน 500,000 ตัน ส่วนประเทศญี่ปุ่นคาดว่าปริมาณการนำเข้าจะลดลงเหลือ 1.4 ล้านตัน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 165.74 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 10.48 บาท) ลดลงจากตันละ 169.23 ปอนด์สเตอลิง ของ สัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.06 ส่วนราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 10.26 บาท ของ สัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.14
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลอดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 273.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.50 บาท) ลดลงจากตันละ 274.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.51 ส่วนราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก กิโลกรัมละ 10.24 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.54
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 296.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 11.39 บาท) ลดลงจากตันละ 297.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.26 ส่วนของราคาบาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก กิโลกรัมละ 11.09 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.71
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาย ณ ตลาดโตเกียวเฉลี่ยสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 44 ประจำวันที่ 27 ต.ค.-2 พ.ย. 2540--