โกลด์แมนแซคส์มังกรมีสิทธิแก่ก่อนรวย

          เฮเลน เฉียว นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์แห่งฮ่องกง ได้ทำการวิจัยถึงจำนวนประชากรของจีนซึ่งจีนได้มีนโยบายให้มีลูกคนเดียวมาตั้งแต่ปี 1979 เพื่อควบคุมจำนวนประชากรที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลนี้ได้ระบุว่าอัตราการพึ่งพิงหรือจำนวนประชากรวัยเด็กและวัยชราที่ไม่สามารถทำงานได้นั้นจะเพิ่มมากขึ้นและใกล้ถึง 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของจีน ทั้งนี้ภายในปี 2050 คนงานจีนซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง 15-64 ปี ทุก 10 คนจะต้องเลี้ยงดูผู้ที่มีอายุมากกว่าและน้อยกว่าช่วงอายุรวม 7 คน นั้นหมายความว่าอัตราพึ่งพิงจะมีมากถึง 50% 
          เฮเลน เฉียว ยังเห็นว่าสังคมของคนชราจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้านประชากรและในปี 2030 คาดว่ารายได้ต่อหัวของจีนจะสูงกว่า 11,000 เหรียญสหรัฐเล็กน้อยแต่ยังไม่สามารถเทียบกับญี่ปุ่นได้ ขณะที่อัตราการพึ่งพาของเกาหลีใต้อยู่ประมาณ 50%  ของประชากรทั้งประเทศในปี 2025 และจะมีรายได้ต่อหัวถึง 52,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ทั้งนี้เฮเลน เฉียว ยังได้แสดงถึงความเป็นไปได้ที่ว่าจีนจะเข้าสู่สังคมคนชราก่อนมีความร่ำรวยมั่งคั่งในขณะที่เหลียงหง นักวิจัยร่วมสถาบันมองว่าจีนจะกลายเป็นสังคมคนชราในอนาคตแต่เชื่อว่าจะรำรวยมั่งคั่งกว่าในปัจจุบันและจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
          ขณะที่ ฮันส์ เฟอฮ์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wuerzburg ในเยอรมนีได้กล่าวในรายงานเมื่อปีที่แล้วว่าจีนจะเป็นนักอดออมระดับโลกและจะกลายเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนให้แก่ประเทศพัฒนาแล้วเว้นแต่จีนจะเข้าสู่สังคมคนชราอย่างรวดเร็ว 
ประเด็นวิเคราะห์:
          จีนซึ่งประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกกำลังจะมีอัตราการพึ่งพิงมากกว่า 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายในประเทศโดยมีแรงงานเกษตรกรเพิ่มขึ้นจาก 98 ล้านคนมาเป็น 128 ล้านคน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่มากเกินไปควรจะมีการสนับสนุนให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคการเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรมบ้างก็จะเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตโดยรวมของจีนได้อีกทางหนึ่ง
          ที่มา: http://www.depthai.go.th