แท็ก
เวียดนาม
คำถาม : ข้อกำหนดการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทในเวียดนามเป็นอย่างไร
คำตอบ : เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก ส่วนหนึ่งเนื่องจาก รัฐบาลเวียดนามมีความพยายามในการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการลงทุนเพื่อให้ทันสมัยและเกิด ความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนท้องถิ่น ล่าสุด ในการประชุมสภาแห่งชาติ (National Assembly) ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ที่ประชุมได้อนุมัติ Unified Enterprise Law ซึ่งประกอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจในเวียดนาม ที่สำคัญ ได้แก่ กฎหมายองค์กรธุรกิจ (Law on Enterprise) กฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศ (Law on Foreign Investment) และกฎหมายรัฐวิสาหกิจ (Law on State-Owned Enterprise) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของกระบวนการทำธุรกิจและการลงทุน
รวมทั้งสร้างความโปร่งใสและความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของรัฐบาลเวียดนามในการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้มีความเป็นสากลขึ้น โดยมีความชัดเจนในการบังคับใช้และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ในไม่ช้านี้
สำหรับการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทนั้น เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลเวียดนามผลักดันให้เกิด ความเท่าเทียมกันระหว่างบริษัทของชาวเวียดนามและบริษัทต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทในเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามสัญชาติของบริษัท ได้แก่ บริษัทท้องถิ่น (Local Company) ซึ่ง ข้อกำหนดในการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทอยู่ภายใต้กฎหมายองค์กรธุรกิจ และบริษัทต่างชาติ (Foreign Invested Company) ซึ่งข้อกำหนดในการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทอยู่ภายใต้กฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามได้ออกกฎหมายองค์กรธุรกิจฉบับใหม่ภายใต้กรอบของ Unified Enterprise Law ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 กำหนดให้การจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทต่างชาติต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังเป็นการปรับปรุงระบบการจัดเก็บข้อมูลด้านการจดทะเบียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เงื่อนไข ในการตั้งชื่อบริษัทในเวียดนามมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) ชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ต้องไม่ซ้ำและไม่ทำให้เกิดความสับสนกับชื่อของบริษัทอื่นที่จดทะเบียนไปก่อนหน้า
2) ชื่อบริษัทต้องไม่ละเมิดหรือขัดกับจารีตประเพณี ศีลธรรมจรรยา และวัฒนธรรมอันดีงาม ของเวียดนาม
3) ชื่อบริษัทต้องเป็นภาษาเวียดนาม และสามารถตั้งชื่อภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมได้ แต่ต้องใช้ตัวอักษรขนาดเล็กกว่าและอยู่ใต้ชื่อภาษาเวียดนาม
4) ชื่อบริษัทต้องบ่งบอกถึงรูปแบบของบริษัท โดยให้กำกับคำที่ระบุถึงรูปแบบของบริษัทไว้หน้าชื่อบริษัท เช่น หากเป็นบริษัทในลักษณะ Limited Liability Company ให้ใช้ชื่อว่า "Cng ty TNHH (ชื่อบริษัท)" หรือหากเป็นบริษัทในลักษณะ Shareholding Company ให้ใช้ชื่อว่า "Cng ty c phn (ชื่อบริษัท)" เป็นต้น
นอกจากนี้ การตั้งชื่อบริษัทเป็นภาษาต่างประเทศ ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจ (Article 9 of Decree 109 of the Government) ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมว่า การตั้งชื่อบริษัทเป็นภาษาต่างประเทศต้องใช้คำที่แปลตรงตัวจากชื่อภาษาเวียดนามของบริษัทนั้น แต่หากชื่อบริษัทที่เป็นภาษาเวียดนามเป็นชื่อเฉพาะ (proper name) จะตั้งชื่อภาษาอังกฤษโดยมีการแปลจากชื่อภาษาเวียดนามหรือไม่ก็ได้ เช่น
* ชื่อบริษัท "Cng ty TNHH Hoa Hng" อาจใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Hoa Hng Company Ltd." หรือ "Rose Company Ltd." ชื่อหนึ่งชื่อใดก็ได้ เนื่องจากชื่อเฉพาะ "Hoa Hng" สามารถแปลได้และหมายถึงดอกกุหลาบ (Rose)
* ชื่อบริษัท "Cng ty TNHH Lin Khng" สามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษได้เพียงชื่อเดียว คือ "Lin Khng Company Ltd." เนื่องจากคำว่า "Lin Khng" เป็นชื่อเฉพาะ ไม่มีคำแปล
ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจโดยทั่วไปในเวียดนาม ผู้ประกอบการมักใช้ชื่อในการประกอบธุรกิจแตกต่างจากชื่อที่จดทะเบียน เนื่องจากกฎหมายองค์กรธุรกิจของเวียดนามไม่มีข้อบังคับว่าต้องใช้ชื่อในการประกอบธุรกิจเป็นชื่อเดียวกับที่จดทะเบียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชื่อในการประกอบธุรกิจที่ต่างจากชื่อที่จดทะเบียน จะอยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า (Vietnam's Trademark Regime) ซึ่งมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั่วไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก ส่วนหนึ่งเนื่องจาก รัฐบาลเวียดนามมีความพยายามในการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการลงทุนเพื่อให้ทันสมัยและเกิด ความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนท้องถิ่น ล่าสุด ในการประชุมสภาแห่งชาติ (National Assembly) ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ที่ประชุมได้อนุมัติ Unified Enterprise Law ซึ่งประกอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจในเวียดนาม ที่สำคัญ ได้แก่ กฎหมายองค์กรธุรกิจ (Law on Enterprise) กฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศ (Law on Foreign Investment) และกฎหมายรัฐวิสาหกิจ (Law on State-Owned Enterprise) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของกระบวนการทำธุรกิจและการลงทุน
รวมทั้งสร้างความโปร่งใสและความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของรัฐบาลเวียดนามในการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้มีความเป็นสากลขึ้น โดยมีความชัดเจนในการบังคับใช้และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ในไม่ช้านี้
สำหรับการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทนั้น เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลเวียดนามผลักดันให้เกิด ความเท่าเทียมกันระหว่างบริษัทของชาวเวียดนามและบริษัทต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทในเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามสัญชาติของบริษัท ได้แก่ บริษัทท้องถิ่น (Local Company) ซึ่ง ข้อกำหนดในการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทอยู่ภายใต้กฎหมายองค์กรธุรกิจ และบริษัทต่างชาติ (Foreign Invested Company) ซึ่งข้อกำหนดในการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทอยู่ภายใต้กฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามได้ออกกฎหมายองค์กรธุรกิจฉบับใหม่ภายใต้กรอบของ Unified Enterprise Law ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 กำหนดให้การจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทต่างชาติต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับการจดทะเบียนตั้งชื่อบริษัทท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังเป็นการปรับปรุงระบบการจัดเก็บข้อมูลด้านการจดทะเบียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เงื่อนไข ในการตั้งชื่อบริษัทในเวียดนามมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) ชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ต้องไม่ซ้ำและไม่ทำให้เกิดความสับสนกับชื่อของบริษัทอื่นที่จดทะเบียนไปก่อนหน้า
2) ชื่อบริษัทต้องไม่ละเมิดหรือขัดกับจารีตประเพณี ศีลธรรมจรรยา และวัฒนธรรมอันดีงาม ของเวียดนาม
3) ชื่อบริษัทต้องเป็นภาษาเวียดนาม และสามารถตั้งชื่อภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมได้ แต่ต้องใช้ตัวอักษรขนาดเล็กกว่าและอยู่ใต้ชื่อภาษาเวียดนาม
4) ชื่อบริษัทต้องบ่งบอกถึงรูปแบบของบริษัท โดยให้กำกับคำที่ระบุถึงรูปแบบของบริษัทไว้หน้าชื่อบริษัท เช่น หากเป็นบริษัทในลักษณะ Limited Liability Company ให้ใช้ชื่อว่า "Cng ty TNHH (ชื่อบริษัท)" หรือหากเป็นบริษัทในลักษณะ Shareholding Company ให้ใช้ชื่อว่า "Cng ty c phn (ชื่อบริษัท)" เป็นต้น
นอกจากนี้ การตั้งชื่อบริษัทเป็นภาษาต่างประเทศ ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจ (Article 9 of Decree 109 of the Government) ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมว่า การตั้งชื่อบริษัทเป็นภาษาต่างประเทศต้องใช้คำที่แปลตรงตัวจากชื่อภาษาเวียดนามของบริษัทนั้น แต่หากชื่อบริษัทที่เป็นภาษาเวียดนามเป็นชื่อเฉพาะ (proper name) จะตั้งชื่อภาษาอังกฤษโดยมีการแปลจากชื่อภาษาเวียดนามหรือไม่ก็ได้ เช่น
* ชื่อบริษัท "Cng ty TNHH Hoa Hng" อาจใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Hoa Hng Company Ltd." หรือ "Rose Company Ltd." ชื่อหนึ่งชื่อใดก็ได้ เนื่องจากชื่อเฉพาะ "Hoa Hng" สามารถแปลได้และหมายถึงดอกกุหลาบ (Rose)
* ชื่อบริษัท "Cng ty TNHH Lin Khng" สามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษได้เพียงชื่อเดียว คือ "Lin Khng Company Ltd." เนื่องจากคำว่า "Lin Khng" เป็นชื่อเฉพาะ ไม่มีคำแปล
ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจโดยทั่วไปในเวียดนาม ผู้ประกอบการมักใช้ชื่อในการประกอบธุรกิจแตกต่างจากชื่อที่จดทะเบียน เนื่องจากกฎหมายองค์กรธุรกิจของเวียดนามไม่มีข้อบังคับว่าต้องใช้ชื่อในการประกอบธุรกิจเป็นชื่อเดียวกับที่จดทะเบียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชื่อในการประกอบธุรกิจที่ต่างจากชื่อที่จดทะเบียน จะอยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า (Vietnam's Trademark Regime) ซึ่งมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั่วไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2549--
-พห-