พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 25 กรกฎาคม 2557 - 31 กรกฎาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday July 28, 2014 08:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 25 กรกฎาคม 2557 - 31 กรกฎาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณตอนบนและด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยมีน้ำท่วมมาก่อนควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะลำไยเกษตรกร ควรเก็บกวาดผลที่ เน่าเสีย และร่วงหล่นไปกำจัด โดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคราสนิม โรคใบจุด และโรคดอกเน่าในเบญจมาศ กุหลาบ และดาวเรือง เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 27-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคอาจมีฝนตกหนัก เกษตรกรควร เฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวโดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อน
  • ในช่วงที่มีฝนตก ชาวนาควรระวังและป้องกันหอยแชอรี่ที่ลอยมากับน้ำ โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหลเข้านา แล้วจับหอยไปทำลาย เพื่อป้องกันหอยเข้ามาแพร่พันธุ์ ระบาดในนาข้าว
  • เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบูตเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลง สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรระวังสัตว์มีพิษ ซึ่งในช่วงที่มีฝนตกอาจจะเข้ามาอาศัยในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และทำร้ายสัตว์เลี้ยง ดังนั้น เกษตรกรจึงควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ดังกล่าวควรรีบจัดการให้ออกไปจากโรงเรือน
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวน ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้น ทรุดโทรม ชะงักการเจริญเติบโต

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 26-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในแปลงปลูกนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นพืชตายได้
  • ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่งและขั้วผล แล้วทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเก็บกวาดเปลือกและผลที่เน่าเสียร่วงหล่นไปกำจัด โดยเผาหรือฝังให้ลึก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝนซึ่งดินมีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรจึงควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับ ผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เช่น เงาะ และทุเรียน เป็นต้น เกษตรกรควรหมั่นสังเกตหากพบผลที่เป็นโรค หรือศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรจึงควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับ ผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 27 – 31 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ