พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 กันยายน 2557 - 21 กันยายน 2557

ข่าวทั่วไป Tuesday September 16, 2014 08:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 กันยายน 2557 - 21 กันยายน 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย., 20-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตอนบนและตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะครึ่งแรกของสัปดาห์จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณทางตอนบนของภาค ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
  • สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคไหม้ ในข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้อาจมีศัตรูข้าวระบาดได้ เช่น หนอนกอข้าว หนอนห่อใบข้าว และหอยเชอรี่ เป็นต้น ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหายได้ ชาวนาควรระวังและป้องกัน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรได้
  • สำหรับสภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ เช่น อ้อย ข้าวโพด และมันสำปะหลัง เป็นต้น ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคแส้ดำในอ้อย โรคราน้ำค้างในข้าวโพด และโรคใบไหม้ในมันสำปะหลัง โดยกำจัดวัชพืชเพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก และหมั่นสำรวจหากพบต้นที่เป็นโรคควรถอนออกไปทำลาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนัก บริเวณพื้นที่เพาะปลูกที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรยกร่องแปลงปลูกพืชให้สูง รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับสภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ ควรดูแลโรงเรือนกล้วยไม้ให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในโรงเรือนป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราสนิม และโรคยอดเน่า เป็นต้น

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร
  • สำหรับไม้ผล เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งแสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น และอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า
  • ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

  • สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรดูสภาพสวนให้โปร่ง ตัดแต่งกิ่งให้แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา รวมทั้งดูแลวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและแมลงศัตรูพืช
  • ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร
  • สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรดูสภาพสวนให้โปร่ง ตัดแต่งกิ่งให้แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา รวมทั้งดูแลวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและแมลงศัตรูพืช
  • ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และ เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ