พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 24 กันยายน 2557 - 30 กันยายน 2557

ข่าวทั่วไป Thursday September 25, 2014 08:59 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 24 กันยายน 2557 - 30 กันยายน 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. จะมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผลในระยะนี้ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • เนื่องจากระยะต่อไป โดยเฉพาะครึ่งหลังของเดือนตุลาคม จะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงไว้ให้พร้อม
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
  • ในช่วงฤดูฝนแมลงและศัตรูสัตว์จะเจริญเติบโตได้ดี ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรระวังและป้องกันศัตรูสัตว์ดังกล่าวมารบกวนสัตว์เลี้ยงทำให้ชะงักการเจริญเติบโตและอาจนำโรคมาสู่สัตว์เลี้ยงได้
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อน ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบการระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ทำให้ต้นพืชตายได้
  • สำหรับผู้ที่ลี้ยงสัตว์น้ำ ควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ หลังคาไม่รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูกซึ่งอาจทำให้พืชเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราได้
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากชื้อรา รวมทั้งไม่ควรกองวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวนเพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

  • เนื่องจากระยะต่อไป โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงฤดูฝนของทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน น้ำใหลได้สะดวก เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะลองกอง เกษตรกรควร เก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียไปกำจัดให้ถูกวิธี โดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะลองกอง เกษตรกรควร เก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียไปกำจัดให้ถูกวิธี โดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ