พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 ธันวาคม 2557 - 21 ธันวาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday December 15, 2014 15:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 ธันวาคม 2557 - 21 ธันวาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดดอยมีอากาศหนาวจัด เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟผิงให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • สำหรับยอดดอยอาจมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • ส่วนผู้เลี้ยงปลาควรให้อาหารปลาน้อยลง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลงทำให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 15 -16 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ธ.ค. อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้อากาศจะหนาวโดยทั่วไปกับมีลมแรง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • สำหรับผู้ที่จุดไฟผิงเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงหากใช้งานเสร็จแล้วควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันไฟลุกลามจนเกิดเป็นอัคคีภัย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอ และเป็นโรค ได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้อากาศจะหนาวเย็นในตอนเช้าโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับสภาพอากาศแห้งและลมแรงทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ พืชผักและ ไม้ดอก ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศจะหนาวเย็นในตอนเช้าโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงเกษตรกรควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ วามเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ตอนบนมีอากาศแห้ง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ควรให้น้ำเพิ่มเติมให้พอเพียงต่อความต้องการของพืชหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
  • สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่นไม้ผล กาแฟ และยางพารา เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และหากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบป้องกันโรคก่อนระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ
  • สัปดาห์นี้ บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และในช่วงวันที่ 17 – 21 ธ.ค. เรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่นไม้ผล กาแฟ และยางพารา เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และหากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบป้องกันโรคก่อนระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ