พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 17 ธันวาคม 2557 - 23 ธันวาคม 2557

ข่าวทั่วไป Wednesday December 17, 2014 15:26 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 17 ธันวาคม 2557 - 23 ธันวาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 21-22 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดดอยมีอากาศหนาวจัด เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟผิงให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • สำหรับยอดดอยอาจมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • ในช่วงวันที่ 18 -20 อุณหภูมิอากาศจะลดลง 3-5 องศา ส่งผลให้อุณหภูมิผิวน้ำและน้ำในระดับล่างแตกต่างกัน ผู้ที่เลี้ยงปลาควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน และควรลดอาหารให้น้อยลง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ส่งผลให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-18 ธ.ค. อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา และมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นวันที่ 22-23 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

  • ในระยะนี้อากาศจะหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงที่อุณหภูมิอากาศลดลง ประกอบกับปริมาณน้ำระเหยมีมาก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดการปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง และระวังอย่าให้อุณภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 17-19 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นวันที่ 22-23 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในระยะนี้อากาศในตอนเช้าจะหนาวเย็นโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • เนื่องจากอุณหภูมิอากาศลดลงส่งผลให้อุณหภูมิผิวน้ำและน้ำในระดับล่างแตกต่างกัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนและลดอาหารให้น้อยลงเพื่อมิให้เหลือเน่าเสียในบ่อส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับสภาพอากาศแห้งและลมแรงทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ พืชผักและไม้ดอก ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 17-19 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นวันที่ 22-23 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • ในระยะนี้สภาพอากาศในตอนเช้าจะหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลร่างกายให้อบอุ่น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สภาพอากาศที่หนาวเย็น เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งควรดูแลอุณหภูมิน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งป้องกันการระบาดของโรคในกุ้งโดยมีการจัดการน้ำให้ดี เปิดเครื่องตีน้ำเพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนและปรับสภาพน้ำให้อุณหภูมิน้ำระหว่างผิวหน้าน้ำกับระดับล่างไม่แตกต่างกันมากนัก
  • สำหรับสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและในช่วงวันที่ 17-21 ธ.ค.มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

  • ช่วงที่มีสภาพอากาศเย็น เกษตรกรควรดูแล และป้องกันการระบาดของโรคในกุ้งโดยลดปริมาณอาหารจัดการน้ำให้ดี และเปิดเครื่องตีน้ำให้บ่อยครั้งขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนและปรับสภาพน้ำให้อุณหภูมิน้ำระหว่างผิวหน้าน้ำกับระดับล่างไม่แตกต่างกันมากนัก
  • สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่นไม้ผล กาแฟ และยางพารา เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และหากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบป้องกันโรคก่อนระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ
  • ในช่วงวันที่ 17-19 และ 22-23 ธ.ค.2557 บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และ เรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม 2557

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ช่วงที่มีสภาพอากาศเย็น เกษตรกรควรดูแล และป้องกันการระบาดของโรคในกุ้งโดยลดปริมาณอาหารจัดการน้ำให้ดี และเปิดเครื่องตีน้ำให้บ่อยครั้งขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนและปรับสภาพน้ำให้อุณหภูมิน้ำระหว่างผิวหน้าน้ำกับระดับล่างไม่แตกต่างกันมากนัก
  • สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่นไม้ผล กาแฟ และยางพารา เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และหากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบป้องกันโรคก่อนระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ
  • ในช่วงวันที่ 17-19 และ 22-23 ธ.ค.2557 บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และ เรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม 2557

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ