พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 04 พฤษภาคม 2558 - 10 พฤษภาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday May 6, 2015 08:55 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 04 พฤษภาคม 2558 - 10 พฤษภาคม 2558

ภาคเหนือ

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ตลอดช่วงโดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อน อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางช่วงและบางวันอาจมีฝนฟ้าคะนองเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือฉีดน้ำบริเวณหลังคา เพื่อลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ป้องกันสัตว์เครียด
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะลิ้นจี่ ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่น ไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยการเผาหรือฝังไม่ควรกองสุมไว้ในบริเวณสวน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออกและตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้อากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูร้อน ซึ่งสภาพอากาศจะร้อนถึงร้อนจัดสลับกับมีฝนบางวัน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • ระยะนี้อากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพโรงเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง ดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้ชำรุด และมีรอยรั่วซึม เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ตลอดช่วงโดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อน อากาศค่อนข้างแปรปรวนมีฝนสลับกับอากาศร้อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกัน การเจ็บป่วย
  • สำหรับอากาศร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยง อย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูฝน สภาพอากาศจะมีความชื้นสูง ไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยวผล เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองรวมอยู่ในสวน แต่ควรกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝัง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • สำหรับชาวสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่มควรเตรียมจัดทำทางระบายน้ำ ให้มีประสิทธิภาพโดยขุดลอกคูคลอง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-10 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-26องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • แม้จะมีฝนตกในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแต่ปริมาณและการกระจาย ยังไม่มากพอ เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผล ควรดูแลให้น้ำอย่างเหมะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่นผลผลิตลดลง
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนในภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าฝั่งตะวันออกพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพราะปลูกและขุดลอกคูคลองอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและเจริญเติบโตทางผลแต่เกษตรกรควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-10 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนในภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าฝั่งตะวันออกพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพราะปลูกและขุดลอกคูคลองอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและเจริญเติบโตทางผลแต่เกษตรกรควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ