พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 06 พฤษภาคม 2558 - 12 พฤษภาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday May 6, 2015 14:58 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 06 พฤษภาคม 2558 - 12 พฤษภาคม 2558

ภาคเหนือ

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และ มีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 6-9 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ และจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นด้วย เกษตรกรควรรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ช่วงที่อากาศร้อนถึงร้อนจัด จะทำให้สัตว์ เกิดความเครียดมากเพิ่มขึ้นจะทำให้สัตว์อ่อนแอและป่วยได้ง่าย ดังนั้นเกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้สะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก และจัดหาน้ำสะอาดให้สัตว์กินอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยลดความเครียดให้สัตว์ในช่วงสภาพอากาศร้อน
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะลิ้นจี่ ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่น ไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยการเผาหรือฝังไม่ควรกองสุมไว้ในบริเวณสวน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และ มีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 6-9 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมี ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมี ลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ และจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นด้วย เกษตรกรควรรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ เช่น โคและกระบือ ในช่วงกลางวันซึ่งมีแดดจัด ควรดูแลให้สัตว์ได้เข้าไปพักตามร่มไม้ นอกจากนี้ควรจัดหาน้ำสะอาดให้สัตว์กินอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยลดความเครียดให้สัตว์ในช่วงสภาพอากาศ ร้อนได้

ภาคกลาง

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และ มีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 6-9 พ.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมี ลมกระโชกแรงบางแห่งลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ และจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นด้วย เกษตรกรจึงควรรักษาสุขภาพตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • เนื่องจากช่วงปลายเดือนนี้จะเข้าสู่ฤดูฝน เกษตรกรที่ต้องการปลูก พืชไร่ควรเตรียมดินและจัดทำร่องระบายน้ำในแปลงปลูกเพื่อช่วยระบายน้ำเมื่อมีฝนตกหนักติดต่อกัน
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง เกษตรกรควรจัดเตรียมเสริมวัสดุสำหรับกั้นขอบบ่อเพื่อป้องกันน้ำฝนไหลลงบ่อทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูฝน สภาพอากาศจะมีความชื้นสูง ไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยวผล เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองรวมอยู่ในสวน แต่ควรกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝัง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

-สำหรับชาวสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่มควรเตรียมจัดทำทางระบายน้ำ ให้มีประสิทธิภาพโดยขุดลอกคูคลอง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป

  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ควรจัดหาน้ำสะอาดให้สัตว์กินอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยลดความเครียดให้สัตว์ในช่วงสภาพอากาศร้อนได้ นอกจากนี้ช่วงที่มีฝนตก ความชื้นเพิ่มมากขึ้น ทำให้เชื้อโรคเจริญได้ดี อาจทำให้สัตว์ป่วยบ่อย เกษตรกรควรหมั่นดูแล หากพบสัตว์ป่วยให้รีบทำการรักษา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรในช่วงวันที่ 8-12 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพราะปลูกและขุดลอกคูคลองอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และเจริญเติบโตทางผล แต่เกษตรกรควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • ส่วนทางตอนล่างของภาคชาวสวนผลไม้ควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในช่วงวันที่ 8-12 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพราะปลูกและขุดลอกคูคลองอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และเจริญเติบโตทางผล แต่เกษตรกรควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • ส่วนทางตอนล่างของภาคชาวสวนผลไม้ควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ