ระหว่าง 22 พฤษภาคม 2558 - 28 พฤษภาคม 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝนแต่ระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลและซ่อมแซมหลังคาโรงเรือนอย่าให้รั่วซึม รวมทั้งทำแผงกำบังฝนสาดให้แก่สัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในแปลงปลูก รวมทั้งไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ และกิ่งไม้ผุ เป็นต้นไว้ในสวน หรือบริเวณโคนต้นพืช เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
-สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ในช่วงฤดูฝนนี้ ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา และไม่ควรปลูกแน่นจนเกินไป และหากทำได้ควรหันหัวแปลงปลูกตามทิศ ทางลม เพื่อลดความชื้นสะสมภายในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝน
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะในสัตว์เท้ากีบอาจเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้ ซึ่งโรคดังกล่าวมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน เกษตรกรควรหมั่นสังเกตบริเวณโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพราะอาจมีสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ และแมลงป่อง เป็นต้น อาจหนีฝนเข้ามาอาศัยหลบซ่อนภายในในบริเวณโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และอาจทำร้ายสัตว์เลี้ยงได้ หากพบควรรีบจัดการให้ออกไปโดยเร็ว
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เพาะปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก นอกจากนี้ควรเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 22-24 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลออกได้สะดวก เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก เป็นสาเหตุให้เกิดโรคพืชจากเชื้อราได้
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ระยะนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ระยะนี้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมที่พัดนำความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียเข้ามาสู่ภาคใต้และประเทศไทย ทำให้มีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลออกจากพื้นที่เพาะปลูกได้สะดวก ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
- เนื่องจากระยนี้ปริมาณและการกระจายของฝนยังไม่สม่ำเสมอ พื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ซึ่งหนอนจะเจาะและกัดกินผลทำให้ผลเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 22-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- เนื่องจากระยนี้ปริมาณและการกระจายของฝนยังไม่สม่ำเสมอ พื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ซึ่งหนอนจะเจาะและกัดกินผลทำให้ผลเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
- อนึ่ง ระยะนี้บริเวณทะเลอันดามันตอนบน ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74