พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 29 กรกฎาคม 2558 - 04 สิงหาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday July 29, 2015 16:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 กรกฎาคม 2558 - 04 สิงหาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 1- 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันตกของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยมีน้ำท่วมมาก่อนควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
  • ในช่วงที่มีฝนตกสภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่ปลูกพืชสวน และไม้ผลควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคแอนแทรกโนสในส้ม โรคราสนิมในกาแฟ และโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เช่น ลิ้นจี่และลำไย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ต้นเสียหาย
  • สำหรับพืชผลทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวไม่ควรปล่อยไว้ในพื้นที่เพาะปลูก เพราะอาจเกิดความเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 1- 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันออกของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
  • สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ข้าวที่อยู่ในระยะปักดำ และเจริญเติบโต ชาวนาควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ นอกจากนี้ควรระวังป้องกัน การระบาดของหอยเชอรี่โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำที่ไหลเข้านา แล้วจับหอยไปทำลาย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 1- 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • สำหรับทางตอนบนและตอนกลางของภาคแม้จะมีฝนตกแต่ยังมีปริมาณและการกระจายไม่เพียงพอ เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และไม้ผล ควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้กับพืชอย่างเหมาะสมรวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ที่จะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชทรุดโทรม ชะงักการเจริญเติบโต
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1- 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ชาวสวนไม้ผลควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินมีความชื้นสูง
  • ส่วนพืชไร่ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • เนื่องจากระยะที่ผ่านมาทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักประกอบกับยังคงมีฝนต่อเนื่องในระยะนี้ ทำให้ดินมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชสวนควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่าซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียสตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ส่วนทางฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกน้อย ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผลชะงักการเจริญเติบโต และผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ เกษตรกรควรหมั่นสังเกตหากพบผลที่เป็นโรค หรือศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ