พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 2 ตุลาคม 2558 - 8 ตุลาคม 2558

ข่าวทั่วไป Friday October 2, 2015 14:26 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 02 ตุลาคม 2558 - 08 ตุลาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 2-3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นฝนจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชชนิดต่างๆ เช่น กาแฟ พืชผัก และพืชไร่ ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ เกษตรกรจึงหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำต่าง ควรระวังสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วซึ่งทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันทำให้ปลาน็อคน้ำตายได้ เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน และหากโตได้ขนาดควรรีบจับขายเพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • ในช่วงวันที่ 4 – 6 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 2-3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นฝนจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ตลอดจนข้าวนาปี เป็นต้น รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำให้ระวังสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและปริมาณออกซิเจนลดลง สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันทำให้ปลาน็อคน้ำตายได้ เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน และหากโตได้ขนาดควรรีบจับขายเพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • บริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำให้เหมาะสม เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในการเกษตรตลอดช่วงแล้ง
  • ในช่วงวันที่ 4 – 6 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ควรเตรียมการกั้นขอบบ่อให้สูง เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ่อเมื่อมีฝนตกหนัก จนทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำจะปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและอาจส่งผลให้เป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 2 - 3 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
  • สำหรับในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วง ลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 2 - 3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคหลังจากนั้นฝนจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 4 – 6 ต.ค.คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 2 - 3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นฝนจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 4 – 6 ต.ค.คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ