พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 09 ตุลาคม 2558 - 15 ตุลาคม 2558

ข่าวทั่วไป Friday October 9, 2015 13:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 09 ตุลาคม 2558 - 15 ตุลาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 13-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องสภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค.จะมีฝนตกชุก และตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร

เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวแก่ตนเองเอาไว้ให้พร้อม

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรระวังอันตรายป้องกัน ความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวแก่ตนเองเอาไว้ให้พร้อม

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

ระยะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้

สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ควรป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ่อเมื่อมีฝนตกหนัก จะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำจะปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตรในช่วงวันที่ 13-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้

ส่วนชาวสวนผลไม้ สภาพอากาศที่ชื้นในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ความชื้นในอากาศสูง เช่น โรคใบติด และโรครากเน่าโคนเน่า ในทุเรียน เป็นต้น

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนชุก และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีน้ำท่วมมาก่อน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง และใส่ปุ๋ยบำรุงต้นพืช เพื่อให้ต้นสมบูรณ์ ฟื้นตัวได้เร็วมีเวลาพักตัวได้นาน

ฝนที่ตกในระยะนี้ ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เหมาะแก่การเกิดโรคจากเชื้อรา โดยเฉพาะในพืชผัก หากพบควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ระบาดไปยังต้นอื่นๆ

เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนของทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรเมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง และใส่ปุ๋ยบำรุงต้นพืช เพื่อให้ต้นสมบูรณ์ ฟื้นตัวได้เร็วมีเวลาพักตัวได้นาน

ฝนที่ตกในระยะนี้ ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เหมาะแก่การเกิดโรคจากเชื้อรา โดยเฉพาะในพืชผัก หากพบควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ระบาดไปยังต้นอื่นๆ

เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนของทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรเมื่อมีฝนตกหนัก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ