พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 - 7 กุมภาพันธ์ 2559

ข่าวทั่วไป Monday February 1, 2016 13:09 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 - 7 กุมภาพันธ์ 2559

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเกิดขึ้นบางแห่ง และอากาศเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยอุณหภูมิสูงขึ้น

ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และตอนบนของภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้าอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ข้อควรระวัง ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส

ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 1-4 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ