ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 25 เมษายน 2559 - 01 พฤษภาคม 2559
ภาคเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัด บางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม
- สัปดาห์นี้จะมีสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร โรงเก็บพืชผลทางการเกษตร และอาคารบ้านเรือน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
- ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-27 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 28-30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- เนื่องจากระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช และโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อรักษาอุณหภูมิดิน และลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์น้ำที่เลี้ยง รวมทั้งดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัดส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ในช่วงวันที่ 28 -30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับอากาศร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม และใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน และระวังป้องกัน การระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหาย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล และผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว ซึ่งประสบกับฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะที่ผ่านมาจนผลร่วงหล่น เกษตรกรควรรวบรวมกิ่งและใบตลอดจนผลที่ร่วงหล่นไปกำจัดไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
- ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกฝน เกษตรกรควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ หรือขนส่งเพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหาย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณน้ำระเหยมีมากกว่าปริมาณฝนที่ตก ทำให้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำในดิน และรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
- ส่วนฝนที่ตกในภาคใต้ฝั่งตะวันตกระยะที่ผ่านมาจะเป็นผลดีแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และเจริญเติบโตทางผล แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74