ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 29 เมษายน 2559 - 05 พฤษภาคม 2559
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และลูกเห็บตกได้บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 42-44 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 29 - 30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบ เก็บเกี่ยว ไม่ควรปล่อยไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย
- ระยะนี้จะมีสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร โรงเก็บพืชผลทางการเกษตร และอาคารบ้านเรือน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค.อากาศร้อน โดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
- ในช่วง 29 เม.ย. – 1พ.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบ เก็บเกี่ยว ไม่ควรปล่อยไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีฝนฟ้คะนอง สลับกับอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางวัน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เล็ก
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และลูกเห็บตกได้บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
- ในช่วง 29 เม.ย. – 1พ.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร
- ระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม และใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน และระวังป้องกัน การระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหาย
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัดส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลูกเห็บตกได้บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-42 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
- ในช่วง 29 เม.ย. – 1พ.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลเน่าเสียและร่วงหล่น รวมทั้งเปลือกผลไม้ อยู่ในบริเวณสวน ควรเก็บรวบรวมแล้วนำไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของเชื้อโรคและศัตรูพืช
- เนื่องจากระยะนี้บางพื้นที่อาจมีฝนตก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ ใบและยอดอ่อนเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้แม้จะมีฝนตกในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแต่ปริมาณและการกระจาย ยังไม่มากพอ เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผล ควรดูแลให้น้ำอย่างเหมะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่นผลผลิตลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะที่ผ่านมา และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลดีแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74