ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 25 พฤษภาคม 2559 - 31 พฤษภาคม 2559
ภาคเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25- 27 พ.ค. และ 30-31 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 28-29 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดพะเยา เชียงใหม่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก ทำให้ทางด้านตะวันออกของภาคมีค่าสมดุลน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง (+10) ถึง (+70) มม. ส่วนทางด้านตะวันตกของภาค การคายระเหยน้ำของพืชมากกว่าปริมาณฝนที่ตกทำให้ ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-1) ถึง (-20) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้าจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่ขาดน้ำในช่วงที่ผ่านมา แต่เกษตรกรควรพิจารณาให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้พืชขาดน้ำ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต และร่วงหล่น ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25- 27 พ.ค. และ 30-31 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 28-29 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนัก บริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ทำให้ทางด้านตะวันออกของภาคมีค่าสมดุลน้ำ เพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง (+10) ถึง (+100) มม. ยกเว้นทางด้านตะวันตกของภาคที่การคายระเหยน้ำของพืชมากกว่าปริมาณฝนที่ตก ทำให้ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-1) ถึง (- 30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งส่งผลให้ค่าสมดุลน้ำมีค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่ขาดน้ำในช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรควรพิจารณาให้น้ำพืชอย่างเหมาะสม และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคกลาง
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25- 27 พ.ค. และ 30-31 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 28-29 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี ทำให้ค่าสมดุลน้ำมีค่า เพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง (+1) ถึง (+40) มม. ยกเว้นจังหวัด ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม มีค่าสมดุลน้ำเป็นลบ ระหว่าง (-1) ถึง (-30) ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าสมดุลน้ำมีค่าเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรให้น้ำพืชอย่างเหมาะสม และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออก
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25- 27 พ.ค. และ 30-31 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 28-29 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัด ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ทำให้ค่าสมดุลน้ำมีค่า เพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง (+10) ถึง (+40) มม. ส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และชลบุรีมีค่าสมดุลยน้ำเป็นลบ อยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-20) ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่ขาดน้ำในช่วงที่ผ่านมา แต่เกษตรกรควรพิจารณาให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย สำหรับบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง ทำให้ดินมีความชื้นสูง อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ทำให้รากขาดอากาศและเกิดโรครากเน่าและโคนเน่าได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-10) ถึง (+70) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล สำหรับพื้นที่เกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากขาดอากาศและเกิดโรครากเน่าและโคนเน่าได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และ ตรัง ทำให้ปริมาณฝนที่ตกมีค่ามากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยมีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (+40) ถึง (+300) และในช่วง 7 วันข้างหน้า จะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ดินมีความชื้นสูง และมีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ทำให้รากขาดอากาศและเกิดโรครากเน่าและโคนเน่าได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันรากพืชขาดอากาศหายใจและต้นพืชตายได้
หมายเหตุ สมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74