พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 24 มิถุนายน 2559 - 30 มิถุนายน 2559

ข่าวทั่วไป Friday June 24, 2016 14:26 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 24 มิถุนายน 2559 - 30 มิถุนายน 2559

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • อ้อย (เจริญเติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของหนอนกอและโรคเหี่ยวเน่าแดง
  • ข้าวนาปี (กล้า-ปักดำ) : ควรป้องกันการระบาดของโรคไหม้ หนอนกระทู้กล้า
  • กาแฟ : ควรป้องกันการระบาดของโรคราสนิม โรครากขาว และโรคใบจุด (ต้นอ่อน)
  • สัตว์ปีก : ดูแลโรงเรือนให้โปร่ง เพื่อลดความชื้นป้องกันสัตว์ป่วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-29 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • ข้าวนาปี(กล้า-ปักดำ) : ควรป้องกันการระบาดของโรคไหม้และหนอนกระทู้กล้า
  • อ้อย(เจริญเติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของหนอนกอและโรคเหี่ยวเน่าแดง
  • ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง (เก็บเกี่ยว) : ควรรีบเก็บเกี่ยว และลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ
  • สัตว์เท้ากีบ : ควรป้องกันการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย ไม่ควรปล่อยให้สัตว์อยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-29 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • พืชผักชนิดต่างๆ : ควรป้องกันการระบาดของโรค ใบไหม้ ใบจุด และโรคราสนิม
  • ข้าวนาปี : ควรป้องกันการระบาดของโรคไหม้และหนอนกระทู้กล้า
  • องุ่น : ควรป้องกันการระบาดของหนอนกระทู้หอม โรคราสนิม
  • กล้วยไม้ : ควรป้องกันการระบาดของโรคราสนิม โรคยอดเน่า
  • ข้าวโพด(เก็บเกี่ยว) : ควรรีบเก็บเกี่ยว และลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

  • พริกไทย : ควรป้องกันการระบาดของโรครากเน่า
  • สละ : ควรป้องกันการระบาดของโรคผลเน่า โรคใบจุด
  • ไม้ผล (เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว) : ควรตัดแต่งกิ่ง ลดความชื้นภายในสวน ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น เก็บผลที่ร่วงหล่นตามโคนต้นไปทำลายนอกสวน รวมทั้งจัดทำระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

  • ทุเรียน(ผลเจริญ เติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของหนอนเจาะผล โรครากเน่าโคนเน่า
  • เงาะ(ผลเจริญเติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของโรคราแป้ง หนอนเจาะขั้วผล
  • ลองกอง : ควรป้องกันการระบาดของหนอนเจาะกินใต้ผิวเปลือก
  • ยางพารา : ควรป้องกันการระบาดของโรครากขาว โรคราสีชมพู โรคเส้นดำ
  • กาแฟ : ควรป้องกันการระบาดของโรคราสนิม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • ทุเรียน(ผลเจริญ เติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของหนอนเจาะผล โรครากเน่าโคนเน่า
  • เงาะ(ผลเจริญเติบโต) : ควรป้องกันการระบาดของโรคราแป้ง หนอนเจาะขั้วผล
  • ลองกอง : ควรป้องกันการระบาดของหนอนเจาะกินใต้ผิวเปลือก
  • ยางพารา : ควรป้องกันการระบาดของโรครากขาว โรคราสีชมพู โรคเส้นดำ
  • กาแฟ : ควรป้องกันการระบาดของโรคราสนิม

รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในวันที่ 24-30 มิถุนายน 2559

ปริมาณฝนสะสมเดือนมิถุนายน ฝนที่ตกสะสมในเดือนนี้ส่วนมากมีปริมาณมากกว่า 100 มม. ซึ่งพอเพียงกับการเพาะปลูกพืช ยกเว้นบริเวณด้านตะวันออกของภาคเหนือตอนล่าง ตอนกลางของภาคกลาง บางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งมีปริมาณน้อย

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตก ยกเว้นบริเวณภาคเหนือตอนกลาง และ บางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีปริมาณฝนสะสมน้อย

ศักย์การคายระเหยน้ำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมสูงกว่าบริเวณอื่นๆ โดยมีค่าประมาณ 25 มม. ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำจากดินและพืชมากกว่าบริเวณอื่น

สมดุลน้ำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาทุกภาคของประเทศมีฝนและฝนตกหนัก โดยปริมาณฝนที่ตกมีค่ามากกว่าปริมาณน้ำที่ระเหยจากดินและการคายน้ำของพืช ทำให้ในหลายพื้นที่มีค่าสมดุลน้ำเป็นบวก เว้นแต่บริเวณภาคเหนือตอนกลาง บางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่มีค่าสมดุลน้ำเป็นลบ โดยมีค่าอยู่ในช่วง (-1) ถึง (-20) มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตก และในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับพื้นที่การเษตรที่เป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรขุดลองคูคลองและทำทางระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ส่วนบริเวณที่มีฝนสะสมน้อย เช่น บริเวณตอนกลางของภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม โดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล หากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ

หมายเหตุ แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวโหลดได้ตามลิ้งนี้ http://www.arcims.tmd.go.th/dailydata/PET7day.php

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ