พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ 2560 - 21 กุมภาพันธ์ 2560

ข่าวทั่วไป Wednesday February 15, 2017 14:14 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ 2560 - 21 กุมภาพันธ์ 2560

ภาคเหนือ

ในวันที่ 15-18 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนบนของภาคในวันที่ 15 ก.พ. บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ในวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.

  • เกษตรกร ระยะนี้ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนบนของภาคในวันแรกของช่วง และในวันที่ 19-21 ก.พ.อุณหภูมิจะสูงขึ้น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กเพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • พืชผักและไม้ดอก ระยะนี้ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า สภาพอากาศที่เย็นและชื้นอาจทำให้เกิดการระบาดของโรคพืช เช่น โรคราน้ำค้างในพืชผักและไม้ดอกชนิดต่างๆ ทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นจะมีผลกระทบทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตหรือเติบโตช้า เกษตรกรควรหมั่นสำรวจพืชที่ปลูกและให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและควรคำนึงถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ในวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอก ในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • เกษตรกร ระยะนี้ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว และในวันที่ 19-21 ก.พ.อุณหภูมิจะสูงขึ้น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • พืชไร่ ระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ เช่น ถั่วเหลืองและถั่วเขียว ควรหมั่นสำรวจพืชที่ปลูกเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องจะเป็นสาเหตุให้พืชชะงักการเจิญเติบโต รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและควรคำนึงถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ในวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • เกษตรกร ระยะนี้อากาศเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ข้าว ในระยะนี้มีอากาศเย็นกับจะมีหมอกและหมอกหนาในตอนเช้า สภาพอากาศที่เย็นและชื้นอาจทำให้เกิดการระบาดของโรคพืช เช่น โรคไหม้ ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องจะมีผลกระทบทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตหรือเติบโตช้าได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ในวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะนี้มีสภาพอากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยออกจากดินและพืชมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน รวมทั้งให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและควรคำนึงถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย
  • ไม้ผล ระยะนี้อากาศเย็นประกอบกับปริมาณการคายระเหยน้ำมีมาก สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อนชาวสวนควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมตามความเหมาะสมเพื่อป้องกันผลผลิตร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม และการติดผลลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ในวันที่ 15-18 ก.พ. ตั้งแต่ จ. สุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 19-21 กพ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • พืชไร่และผักชนิดต่างๆ ระยะนี้บริเวณตอนบนของภาคมีอากาศเย็นต่อเนื่อง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และผักชนิดต่างๆ ควรหมั่นสำรวจพืชที่ปลูกเพราะสภาพอากาศที่เย็นต่อเนื่องจะเป็นสาเหตุให้พืชชะงักการเจิญเติบโต นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ รวมทั้งควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและควรคำนึงถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย
  • พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะนี้บริเวณตอนล่างของภาคแม้จะมีฝนแต่ปริมาณเริ่มลดลงแล้ว เกษตรกรควรเก็บกักน้ำเพื่อไว้ใช้ด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อยด้วย
  • ประมงชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 15-18 ก.พ. บริเวณอ่าวไทยตั้งแต่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 15- 17 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตรในช่วงวันที่ 18-21 กพ. 60 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะนี้บริเวณตอนล่างของภาคแม้จะมีฝนแต่ปริมาณเริ่มลดลงแล้ว เกษตรกรควรเก็บกักน้ำเพื่อไว้ใช้ด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อยด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ