พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 24 เมษายน 2560 - 30 เมษายน 2560

ข่าวทั่วไป Monday April 24, 2017 15:24 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 24 เมษายน 2560 - 30 เมษายน 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. อากาศร้อน ในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนจัด ในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • ผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะมะม่วงและลิ้นจี่ ที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ส่วนชาวสวนลำไย และส้มที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชตามความเหมาะสมและระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืช จำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืช ทรุดโทรม ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • สัตว์เลี้ยง สำหรับสภาพอากาศร้อน และร้อนจัดในตอนกลางวัน ซึ่งอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเครียด เบื่ออาหารและอาจเจ็บป่วยได้ เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์จึงควรดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมน้ำสะอาดให้อย่างเพียงพอ และลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน โดยดูแลโรงเรือนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือฉีดละอองน้ำฝอยภายในโรงเรือน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. และวันที่ 29-30 เม.ย.อากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝน ฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • ผลผลิตทางการเกษตร ระยะนี้ จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย นอกจากนี้เกษตรกรควรระมัดระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดกับผลผลิต พืชผัก และไม้ดอกที่เก็บเกี่ยวแล้วและรอขนส่งเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในระยะนี้
  • สัตว์เลี้ยง ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองสลับกับอากาศร้อนในตอนกลางวัน อาจทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและติดเชื้อโรคได้ง่าย เกษตรกรจึงควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง จะได้ไม่เจ็บป่วย จัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับ สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โลงแจ้งเวลาที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • ผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงวันที่ 27 – 30 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว ส่วนฝนที่ตกมีบริมาณน้อย ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมตามความเหมาะสม และคลุมบริเวณโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยน้ำ และรักษาความชื้นภายในดิน
  • สัตว์น้ำ ระยะนี้อากาศร้อนและมีอัตราการระเหยน้ำสูง ซึ่งจะ ทำให้อุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น ปริมาณน้ำลดลง ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน และสัตว์น้ำจะอยู่อย่างแออัด ส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางเกษตรโดยเฉพาะ ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว ส่วนปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในระยะต่อไป
  • พืชไร่/พืชผัก ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักควรจัดหาน้ำให้แก่พืชตามความจำเป็นและ หาวัสดุคลุมผิวดิน โดยคลุมจากโคนต้นจนถึงแนวรัศมีทรงพุ่ม วัสดุที่ใช้ เช่น ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น กาบมะพร้าว หญ้าแห้ง ซึ่งจะช่วยชะลออัตราการระเหยน้ำจากผิวดินให้ช้าลงและเศษวัสดุเหล่านี้จะค่อยๆ ผุพังเป็นอินทรีย์วัตถุทำให้ดินร่วนและมีการอุ้มน้ำดีขึ้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • พื้นที่การเกษตร ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย โดยเฉพาะทางตอนบนของภาคเกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ให้น้ำบริเวณทรงพุ่ม หรือระบบน้ำหยด ส่วนบริเวณที่มีฝนตกควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • ยางพารา ภาคใต้ฝั่งตะวันตก และทางตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้สภาพอากาศมีความชื้น ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา

ไม้ผล ระยะนี้สภาพอากาศชื้น สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อน ชาวสวนควรหมั่นสำรวจและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • พื้นที่การเกษตร ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย โดยเฉพาะทางตอนบนของภาคเกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ให้น้ำบริเวณทรงพุ่ม หรือระบบน้ำหยด ส่วนบริเวณที่มีฝนตกควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • ยางพารา ภาคใต้ฝั่งตะวันตก และทางตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้สภาพอากาศมีความชื้น ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • ไม้ผล ระยะนี้สภาพอากาศชื้น สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อน ชาวสวนควรหมั่นสำรวจและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ