พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 24 พฤษภาคม 2560 - 30 พฤษภาคม 2560

ข่าวทั่วไป Wednesday May 24, 2017 14:39 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 24 พฤษภาคม 2560 - 30 พฤษภาคม 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-26 และ 29-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่และในช่วงวันที่ 27-28 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • เกษตรกร ระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน สภาพอากาศจะแปรปรวน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ไม้ผล ระยะนี้จะมีฝนตกชุก เพิ่มขึ้นทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลหรือผลแก่และเก็บเกี่ยว เช่น ลำไยและลิ้นจี่ เป็นต้น เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียกองอยู่ในบริเวณสวนแต่ควรนำไปกำจัด เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง และอาจระบาดลุกลามจากผลที่เน่าเสียมาสู่ต้นพืชได้
  • สัตว์เลี้ยง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ระยะนี้ เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ และหลังคาไม่มีรอยรั่วซึม เพื่อป้องกัน สัตว์เปียกชื้นหนาวเย็น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-25 และ 28-30 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 26-27 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พืชไร่/พืชผัก เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูฝน ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เหมาะแก่การระบาดของโรคพืชทึ่เกิดจากเชื้อราสำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรชุบท่อนพันธุ์หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ ด้วยสารป้องกันเชื้อรา เพื่อป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ
  • สัตว์น้ำ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังจากฝนตกไหม่ เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ำ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 24-25 และ 28-30 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 26-27 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตร สำหรับ เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในช่วงฤดูฝนนี้ ควรเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดี และจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ไม้ผล เนื่องจากระยะนี้ช่วงเป็นฤดูฝน ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะโรครากเน่าและโคนเน่า ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย และถึงตายได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 24-29 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส

  • ไม้ผล เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงฤดูฝน ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้นกับจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมได้ สวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้
  • พริกไทย เนื่องจากในช่วงฤดูฝนความชื้นในดินและในอาศจะสูง เหมาะแก่การระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ผู้ที่ปลูกพืชไร่ ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชดังกล่าว โดยดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และหากทำได้ควรหันหัวแปลงปลูกไปตามทิศทางลม เพื่อให้ลมพัดผ่านได้ จะลดความชื้นในแปลงปลูก ทำให้ดินแห้งเร็วขึ้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 25-30 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ระยะนี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เนื่องจากเป็นด้านรับลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ดดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ
  • ยางพารา ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โรคหน้ากรีดยาง และโรคราสีชมพู เป็นต้น หากพบโรคดังกล่าวควรรีบควบคุมโรค เพื่อไม่ให้ระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ไม้ผล สำหรับพื้นที่สวนผลไม้ซึ่งมีความชื้นสูง เช่น อยู่ในหุบเขา หรือใกล้ชายป่า เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งไม่ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ถึงบริเวณโคนต้น ทำให้ดินแห้งเร็ว ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย และตายได้
  • ประมงชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 24- 28 พ.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2- 3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ