พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 19 กรกฎาคม 2560 - 25 กรกฎาคม 2560

ข่าวทั่วไป Wednesday July 19, 2017 14:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 กรกฎาคม 2560 - 25 กรกฎาคม 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรทีถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค หากระดับน้ำลดลงแล้วเกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงปลูกไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานาน เกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้ และควรรีบฟื้นฟูสภาพแปลงปลูกและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
  • พืชไร่/ไม้ผล/พืชผัก เนื่องจากในระยะที่ผ่านมามีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากและระยะต่อไปจะมีฝนร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง สภาพอากาศเหมาะแก่การระบาดของ โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เกษตรกรที่ปลูก พืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • เกษตรกร ในช่วงที่มีฝนตกบางพื้นที่อาจมีน้ำขัง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรสวมรองเท้าบูท เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู
  • ข้าวนาปี ในช่วงที่มีฝนตกหนักทำให้มีน้ำเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของหอยเชอรี่ที่ลอยมากับน้ำ โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำที่ไหลเข้านาแล้วจับหอยไปทำลาย เพื่อป้องกันหอยดังกล่าวเข้ามาแพร่พันธุ์ในแปลงนา และกัดกินต้นข้าว
  • สัตว์เลี้ยง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบอาจเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้ง่าย

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะบริเวณโคนต้นพืช หากน้ำขังเป็นเวลานานทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้
  • สัตว์เลี้ยง เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ หลังคาอย่าให้มีรอยรั่วซึม และแผงกำบังฝนไม่ชำรุด เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น หนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบพื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม และไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • ไม้ผล สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ เปลือกผลไม้ และผลที่ร่วงหล่น เน่าเสีย กองอยู่ในบริเวณสวน โดยนำไปกำจัดโดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินและอากาศมีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ระยะนี้บางพื้นที่จะมีฝนลดลง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
  • ไม้ผล เนื่องจากระยะที่ผ่านมามีฝนตกชุกทำให้วัชพืชต่างๆเจริญเติบโตได้ดี เกษตรควรกำจัดวัชพืชในบริเวณสวนเพื่อไม่ให้แย่งน้ำและปุ๋ยจากพืชที่ปลูก และเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช เนื่องจากโรคและศัตรูพืชบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ในวัชพืช
  • ชาวประมง ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 22-25 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ระยะนี้บางพื้นที่จะมีฝนลดลง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
  • ชาวประมง ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ