พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 21 กรกฎาคม 2560 - 27 กรกฎาคม 2560

ข่าวทั่วไป Friday July 21, 2017 16:00 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 21 กรกฎาคม 2560 - 27 กรกฎาคม 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วง 7 วันข้างหน้ายังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้บางพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ ไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานานเพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • พืชไร่/ไม้ผล/พืชผัก เนื่องจากระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ที่อาจทำให้ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกชุก ทำให้วัชพืชต่างๆเจริญเติบโตได้ดี เกษตรควรกำจัดวัชพืชในบริเวณแปลงปลูก เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชเหล่านั้นแย่งน้ำและปุ๋ยจากพืชที่ปลูก
  • ข้าวนาปี ในระยะที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกสะสมไว้มีมาก และในช่วง 7 วันข้างหน้ายังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้บางพื้นที่โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาค ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของหอยเชอรี่ซึ่งลอยมากับน้ำ ไม่ให้มาแพร่พันธุ์ในแปลงนาแล้วทำความเสียหายแก่ต้นข้าวได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 25-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกร ควรจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะบริเวณโคนต้นพืช หากน้ำขังเป็นเวลานานจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้
  • สัตว์เลี้ยง เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นไม่ชื้นแฉะ หลังคาไม่มีรอยรั่วซึม และแผงกำบังฝนไม่ชำรุด เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น หนาวเย็นทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ในระยะที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกสะสมไว้มีมาก และในช่วง 7 วันข้างหน้ายังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้บางพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงปลูกไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานานเพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • ไม้ผล ในช่วง 7 วันข้างหน้ายังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมขังได้บางพื้นที่ ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ที่อาจทำให้ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ ทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกน้อย และในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนที่จะตกยังไม่เพียงพอต่อความการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
  • สัตว์น้ำ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ชาวประมง ในช่วงนี้อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วง 7 วันข้างหน้ายังคงมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วงและมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังและป้องกัน การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
  • สัตว์น้ำ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ชาวประมง ในช่วงนี้บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ