พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 22 กันยายน 2560 - 28 กันยายน 2560

ข่าวทั่วไป Friday September 22, 2017 15:07 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 22 กันยายน 2560 - 28 กันยายน 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. ยังคง มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มและมีน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนที่ตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ไม่ควรปล่อยให้มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่อาจทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • สัตว์เลี้ยง เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ เช่น โคและกระบือ เป็นต้น และหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 22-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 22-25ก.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มและมีน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนที่ตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกไม่ควรปล่อยให้มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่อาจทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • พืชไร่/ไม้ผล/พืชผัก ระยะนี้มีฝนตกสลับกับมีแดดในบางวัน สภาพอากาศเหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ หากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อไม้ให้ระบาดไปยังต้นอื่นๆ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในแปลงปลูกเป็นเวลานานทำให้รากพืชเน่าต้นพืชตาย นอกจากนี้ควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • สัตว์น้ำ เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ควรเสริมแนวขอบบ่อให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพระจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้ง หลังจากฝนตกแล้วควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อปรับอุณหภมิน้ำไม่ให้แตกต่างกันมากระหว่างระดับบนและระดับล่าง และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ ไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูกเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • นาข้าว ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง สำหรับนาข้าวที่กำลังออกรวงถึงใกล้เก็บเกี่ยว ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้และโรคใบจุดสีน้ำตาล เป็นต้น ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • ยางพารา ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง
  • ชาวเรือและชาวประมง ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือ และชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของภาค อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ยางพารา ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง
  • ชาวเรือและชาวประมง ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือ และชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ออกประกาศ 22 กันยายน 2560 00:00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ