พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 1 - 7 มกราคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Monday January 1, 2018 15:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 1 - 7 มกราคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 1/61

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นสำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้าเกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและรีบทำ การรักษาเพื่อไม่ให้ เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
  • ในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าเกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคราน้ำค้าง ในพืชไร่และพืชผัก ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้าในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอก ในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำ สุด 7 -13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ความชื้น สัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงนี้จะมีสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องเกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและรีบทำ การรักษาเพื่อไม่ให้ เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ สำหรับสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลงเพื่อการประหยัดและไม่ทำให้น้ำเน่าเสีย
  • เนื่องจากระยะนี้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรจึงควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง1-3 องศาเซลเซียส อุณ ห ภูมิต่ำ สุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง1-3 องศาเซลเซียส อุณ ห ภูมิต่ำ สุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำ สุด 1 8 -22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 มีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลโดยเฉพาะมะม่วง ควรระวังโรคราดำในมะม่วง โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบการระบาดของโรคดังกล่าว ควรฉีดพ่นด้วยน้ำจะทำให้ลดการระบาดลงได้
  • อากาศที่เย็นอย่างต่อเนื่องทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลง เพื่อการประหยัดและไม่ทำให้น้ำเน่าเสีย รวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยง

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว20-35 กม./ชม. ทะเล มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเล มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวน เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคหน้ากรีดยางในยางพารา โรคราสนิมในกาแฟ และโรคราสีชมพู ในลองกอง เป็นต้น
  • ในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 61 บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 1 - 7 มกราคม 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนธันวาคม (ในช่วงวันที่ 1-31 ธ.ค.) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 150 มม.โดยภาคเหนือตอนบนมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 50-150 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 50-800 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 200-800 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม.โดยภาคเหนือตอนบนมีปริมาณฝนสะสมสมสูงสุด 50-100 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 10-150 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 25-150 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม 15-30 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออกมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆสมดุลน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-30) มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออกมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-20)-(-30) มม. เว้นแต่ภาคเหนือและภาคกลางมีค่าสมดุลน้ำสะสม 1-70 มม. สำหรับภาคใต้ ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม 1-150 มม. เว้นแต่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนกลางมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-20) มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว นอกจากนี้ควรใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจาก เชื้อราในพืชสวนและพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ