กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--IR PLUS
PPP ไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง ปิดซื้อขายวันแรกที่ 12.30 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนถึง 146%จากราคาไอพีโอ 5 บาท/หุ้น “สุรเดช บุณยวัฒน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เชื่อนักลงทุนต้อนรับอบอุ่นเพราะบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 56 จะเห็นเติบโตอย่างโดดเด่นจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าครบทั้ง 3 โครงการ
นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) (PPP) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ กล่าวถึงหุ้น PPP ที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกว่า รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทฯได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหุ้นของบริษัทฯ สามารถปิดการซื้อขายในวันแรกที่ราคาสูงกว่าราคาจอง 5 บาท/หุ้น ถึงร้อยละ 146 ซึ่งถือว่าสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าปัจจัยที่ทำให้หุ้น PPP ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ มาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในขณะที่ธุรกิจมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2556 คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตในอัตราที่โดดเด่นเป็นพิเศษ จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มอีก 2 โครงการ
“เชื่อว่าหุ้น PPP ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุน จนปิดการซื้อขายเหนือราคาจองถึง 146% ได้ เพราะ PPP เป็นบริษัทฯ ที่ธุรกิจมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2556 จะเห็นการเติบโตโดดเด่นหลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 2 โรงซึ่งถือว่านักลงทุนเข้าใจในธุรกิจและให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยมจนทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ซึ่งคณะผู้บริหารรวมทั้งพนักงานทุกคนขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ PPP และในฐานะผู้บริหารพร้อมจะทำงานหนักเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน” นายสุรเดชกล่าว
ทั้งนี้ การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของบริษัท พรีเมียร์โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) (PPP) เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 14.00 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 180 จากราคาจอง 5 บาท/หุ้น ก่อนจะปรับขึ้นมาทำราคาสูงสุดของวันที่ 14.90 บาท/หุ้นหรือร้อยละ198 และปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 12.30 บาท/หุ้น ถือว่าให้ผลตอบต่อผู้จองซื้อหุ้น IPO ถึงร้อยละ 146 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,909.44 ล้านบาทถือเป็นการปิดการซื้อขายในวันแรกได้อย่างน่าประทับใจ