กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
หุ้นน้องใหม่ไฟแรง“SANKO”ประกาศข่าวดีให้กับผู้ถือหุ้น หลังบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็น 43.30% ของกำไรสะสม ขณะที่ผู้บริหารย้ำเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปลงทุน หวังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ดันอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้น ชี้ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มียอดจำหน่ายคิดเป็น 60% จากยอดขายทั้งหมด
นายรัฐวัฒน์ ศุขสายชล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ ฉีดหล่อความดันสูง (High-Pressure Diecastingหรือ HPDC) ให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลเกษตร และอื่นๆ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) มีมติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็น 43.30% ของกำไรสะสม ขณะที่บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ30 ของกำไรสุทธิ สำหรับไตรมาส 1/2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 106.44 ล้านบาท
“คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ มีความตั้งใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่จะให้ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) มีส่วนร่วมในการรับเงินปันผลครั้งนี้ด้วย จึงชะลอการจ่ายเงินปันผลจนหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งถือเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ผู้ลงทุนมีให้กับ SANKO” นายรัฐวัฒน์ กล่าว
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SANKO กล่าวด้วยว่า สำหรับเงินที่บริษัทฯ ได้รับจากการระดมทุนกว่า 57 ล้านบาทนั้น บริษัทฯจะนำไปขยายพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อทำการซื้อและติดตั้งเตาหลอมใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดค่าใช้จ่าย รวมถึงทำการทดลองติดตั้งเครื่องหล่อโดยใช้แรงโน้มถ่วงและติดตั้งเครื่องกลึงที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อลดปริมาณการว่าจ้างบุคคลภายนอกในการตกแต่งชิ้นงาน ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดังกล่าว จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ ในอนาคตด้วย
“ที่ผ่านมา อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของบริษัทฯ แกว่งตัวขึ้นลง ซึ่งมีผลต่อผลการดำเนินงาน และเมื่อผู้บริหารได้ประเมินและวิเคราะห์จึงได้ข้อสรุปในการเน้นสร้างอัตรากำไรขั้นต้นให้มีเสถียรภาพ ดังนั้น จึงนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลดต้นทุนการผลิตก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างลงตัวจะทำให้อัตรากำไรขึ้นต้นของบริษัทฯ ดีขึ้นอย่างแน่นอน” นายรัฐวัฒน์ กล่าว