ลอนดอน--20 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
แบลลี่มอร์ (Ballymore) (“แบลลี่มอร์” หรือ “บริษัท”) กลุ่มบริษัทพัฒนา และลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบบรรดาโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่หรูหราที่สุดของลอนดอน เปิดเผยว่า บริษัทได้มอบหมายให้ลาซาร์ด (Lazard) และซีบีอาร์อี (CBRE) เป็นที่ปรึกษาในการเฟ้นหาหุ้นส่วนเพื่อร่วมลงทุน และพัฒนาโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมน้ำขนาดใหญ่ 3 โครงการในเขต Nine Elms, Canary Wharf และ Leamouth ในลอนดอนตะวันออก โดยแบลลี่มอร์จะรับหน้าที่เป็นผู้จัดการโครงการทั้งหมด
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140520/687158-a)
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140520/687158-b)
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140520/687158-c)
โครงการทั้งสามประกอบด้วย Arrowhead Quay ในเขต Canary Wharf, London City Island เฟส 2 ใน Leamouth Peninsula และ Embassy Gardens เฟส 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเขต Nine Elms โครงการทั้งหมดมีมูลค่ารวมกันประมาณ 2 พันล้านปอนด์ โดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ 3,000 ยูนิต พร้อมด้วยพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ สันทนาการ และสำนักงานอีก 250,000 ตารางฟุต ดังรายละเอียดด้านล่างนี้:
- Arrowhead Quay เป็นโครงการพัฒนาอาคารสูง 2 แห่ง แบบ 50 และ 55 ชั้น ซึ่งเชื่อมติดกับ Canary Wharf โดยตรง โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่สูงขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากที่อยู่อาศัยราว 990 ยูนิตแล้ว โครงการอสังหาฯสุดหรูริมน้ำนี้ยังประกอบด้วยห้างร้าน คาเฟ่ พื้นที่สันทนาการ และพลาซ่าสาธารณะที่มีภูมิทัศน์สวยงาม
- London City Island เฟส 2 เป็นพื้นที่สไตล์เกาะอันโดดเด่นบน Leamouth Peninsula ใกล้กับ Canary Wharf และตั้งอยู่ในบริเวณเส้นทางคมนาคมไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟ รถยนต์ และเครื่องบิน โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อเติมเต็มย่านธุรกิจที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงให้สมบูรณ์แบบด้วยที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมประมาณ 1,145 ยูนิต ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้เริ่มดำเนินโครงการในเฟสแรกแล้ว
- Embassy Gardens เฟส 2 ตั้งอยู่ถัดจากสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ และ Linear Park ในเขต Nine Elms นายกเทศมนตรีลอนดอนได้บรรยายถึงพื้นที่ดังกล่าวไว้ว่า “นับเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญที่สุดในลอนดอน และสหราชอาณาจักรสำหรับ 20 ปีข้างหน้า” นอกจากนั้น โครงการเฟสที่ 1 ยังทุบสถิติราคาขายในละแวกดังกล่าว ขณะที่โครงการเฟส 2 จะเป็นที่อยู่อาศัยราว 870 ยูนิต พร้อมด้วยร้านค้า พื้นที่สำนักงาน และการสันทนาการ
Sean Mulryan ซีอีโอของแบลลี่มอร์ แสดงความเห็นว่า “โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในโอกาสของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่สำคัญ และใหญ่ที่สุดกลางกรุงลอนดอน โครงการทั้ง 3 แห่งตั้งอยู่ในบริเวณที่แตกต่างกันมาก ดังนั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ และราคาจำหน่ายจึงมีความหลากหลายไปด้วย นอกจากนั้น ทั้งโครงการ Embassy Gardens และ London City Island ยังทุบสถิติมูลค่ายอดขายในเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของโครงการทั้งสามนี้ที่กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทของเรา”
เกี่ยวกับ แบลลี่มอร์
แบลลี่มอร์ กรุ๊ป เป็นบริษัทลงทุน และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากลที่มุ่งเน้นการสร้างโครงการขนาดใหญ่ทั่วภูมิภาคยุโรป และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดลอนดอนมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี
โครงการอสังหาริมทรัพย์ของแบลี่มอร์ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในการพลิกโฉมความเป็นเมืองด้วยนวัตกรรม และการออกแบบอย่างมีระดับ กลุ่มบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านที่ดิน การออกแบบ สถาปัตยกรรม การวางแผน การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ การตลาด และการเงิน แบลลี่มอร์จะเดินหน้าบุกเบิกโครงการอเนกประสงค์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย สำนักงาน ห้างร้าน โรงแรม และสถานที่สันทนาการ ทั้งนี้ บริษัทมีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอน กรุงปราก และกรุงดับลิน
แบลลี่มอร์เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์สุดหรูจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จที่สุดในลอนดอน อาทิ Pan Peninsula และ New Providence Wharf ในเขต Docklands การปรับปรุงตลาด Old Spitalfields Market ในเขต Spitalfields, St Johns ในเขต Westminister และ High Point Village ใกล้กับสถานีรถไฟใหม่ในเมือง Hayes บรรดาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นนำของตลาดคุณภาพสูงของแบลลี่มอร์ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านคุณภาพ ราคาจำหน่าย และมูลค่าของโครงการในแวดวงตลาดอสังหาริมทรัพย์
สอบถามเพิ่มเติม
Ballymore Group:
Paul Keogh
อีเมล: [email protected]
Powerscourt:
Rory Godson, Justin Griffiths, Ellie Sweeney
โทร. +44(0)20-7250-1446
อีเมล: [email protected]
แหล่งข่าว: Ballymore Group