ซิดนีย์--24 ก.พ.--มีเดียเน็ท-อินเตอร์เนชั่นแนล-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ผู้อำนวยการบริษัทคิวบีเอ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ได้ประกาศในวันนี้ว่า ตัวเลขกำไรหลังหักภาษีประจำปี ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2547 มีอยู่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 820 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 43 % ในขณะที่กำไรก่อนหักภาษีปรับตัวเพิ่มขึ้น 41 % คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,080 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 35 % คิดเป็น104.5 เซนต์ และเงินที่จัดสรรคืนกองทุนผู้ถือหุ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21.2 % เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ 18.3 %
ส่วนกำไรก่อนหักภาษีจากธุรกิจประกันปรับตัวเพิ่มขึ้น 45 % คิดเป็นมูลค่า 908 ล้านดอลลาร์ แม้ตัวเลขเงินเรียกชดเชยจากการประสบอุบัติเหตุจะมีอยู่มากถึง 320 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับจำนวน 27 ล้านดอลลาร์ในปี 2546 ขณะที่กำไรที่ได้จากเบี้ยประกันที่สร้างรายได้มีอยู่ทั้งสิ้น 13.4 % เมื่อเทียบกับปริมาณเงินหมุนเวียนจากการดำเนินงานที่มีอยู่ 10.4 % คิดเป็นมูลค่าถึง 2,110 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับก่อนหน้านี้ที่ 2,089 ล้านดอลลาร์
เบี้ยประกันที่สร้างรายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 % คิดเป็นมูลค่า 8,571 ล้านดอลลาร์ และเบี้ยประกันที่สร้างรายได้สุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น 12 % คิดเป็นมูลค่า 6,781 ล้านดอลลาร์ ผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่มีต่อการขยายตัวของเบี้ยประกันถือเป็นสิ่งสำคัญ กล่าวคือ การใช้อัตราแลกเปลี่ยนในปี 2546นั้น ทำให้เบี้ยประกันที่สร้างได้โดยรวมและสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น 16 % และ 17 % ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว ผู้อำนวยการได้ประกาศว่า เงินปันผลในปี 2547 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36 % จาก 22.0 เซนต์ในปีที่แล้ว เป็น 30.0 เซนต์ต่อหุ้น เงินปันผลจะเป็น 50 % อย่างยุติธรรม งบบัญชีสำหรับเงินปันผลระยะสุดท้ายจะปิดในวันที่ 7 มี.ค.2548 และแผนการลงทุนใหม่ ที่ผ่านการปันผลแล้วจะยังคงอยู่ในอัตรา 2.5 %
นายแฟรงค์ โอ'ฮัลโลรัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคิวบีเอ กล่าวว่า "เราสามารถบรรลุเป้าด้านการเงินหลักในธุรกิจประกันทั้งหมดของเราตามที่ได้กำหนดไว้ในปี 2547 ซึ่งทำให้การลงทุนโดยรวมของเราปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยการใช้กลยุทธ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ"
คิวบีอีได้ยกระดับการคาดการณ์ตัวเลขส่วนต่างที่ได้จากธุรกิจประกันในปี 2548 จากที่ได้ประกาศไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ 12-13 % เป็น 12.5-13.5 % ของเบี้ยประกันที่สร้างรายได้สุทธิ
นายโอ'ฮัลโลรันกล่าวเพิ่มเติมว่า "การเข้าซื้อหุ้นในช่วงปี 2547 ทำให้เบี้ยประกันรวมต่อปีปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ จาก 0.7 พันล้านดอลลาร์ที่ได้ลงบัญชีไว้ในปี 2547 ซึ่งส่งผลให้เป้าหมายการเติบโตปี 2548 ของบริษัทลงบันทึกบัญชีไว้ที่ 9.6 พันล้านดอลลาร์ แข็งแกร่งขึ้น 10 % และเบี้ยประกันที่สร้างรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 12.5 % คิดเป็นมูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราเบี้ยประกันโดยรวมจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับฤดูกาลต่ออายุกรมธรรม์ ณ วันที่ 1 ม.ค.2548 แต่คุณภาพและการแตกไลน์ธุรกิจประกันทั่วโลกของเราและความแข็งแกร่งด้านความรับผิดชอบต่อคำร้องเงินประกันและเบี้ยประกันที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของเรา ทำให้เรามั่นใจว่า เราสามารถเพิ่มผลกำไรหลังหักภาษีได้มากกว่า 10 % ในปี 2548"
ที่มา: คิวบีอี อินชัวรันซ์
ติดต่อ: เฟย์ วอล์คเกอร์ +61-401-521-030
http://www.qbe.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)--