ไทยและภูฏาน ลงนามความตกลง กระชับความสัมพันธ์การค้าและเศรษฐกิจ

ข่าวทั่วไป Friday November 15, 2013 13:58 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ไทยและภูฏานมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดทั้งในระดับราชวงศ์และประชาชนและในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีภูฏานเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2556 นี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ(Trade andEconomic Cooperation Agreement between Thailand and Bhutan) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ได้ลงนามร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการของภูฏาน(H.E. Mr. Lyonpo Norbu Wangchuk) ในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยและภูฏานโดยสาระสำคัญของความตกลงฯ ครอบคลุมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การท่องเที่ยว ก่อสร้าง สุขภาพและการรักษาพยายาล การศึกษา พลังงาน โลจิสติกส์รวมทั้งการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม ตลอดจนมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า(Joint Trade Committee) เพื่อเป็นเวทีสำหรับทั้งสองประเทศในการทบทวนพัฒนาการด้านการค้าและการลงทุนรวมทั้งหารือถึงแนวทางขยายการค้าระหว่างกัน

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ถึงแม้ภูฏานจะเป็นประเทศเล็กไม่มีทางออกทะเล แต่เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไทยมีการนำเข้าสินค้าไทยเป็นมูลค่าเฉลี่ยปีละ 150,000เหรียญสหรัฐ และในปี 2556 การส่งออกจากไทยไปภูฏานเพิ่มขึ้นร้อยละ 98.97 นอกจากนั้นภูฏานยังเป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในหลายกิจการ รวมถึงกิจการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้วเช่น การพัฒนาส่งออกพลังงานน้ำ ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ การพัฒนาศูนย์การศึกษาในประเทศศูนย์ผลิตพืชออแกนิค ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนั้นภูฏานได้มีความตกลง FTA กับหลายประเทศ อาทิ อินเดียบังคลาเทศ ปากีสถาน เป็นต้น เป็นสมาชิกความตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาค เช่น SAARCและ BIMSTEC จึงนับว่าภูฏานเป็นประเทศที่ยังมีโอกาสให้นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนและทำการค้ากับภูฏานเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ภูฏานได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีเหล่านั้น

"โอกาสของประเทศไทย คือการขยายการค้าการลงทุนไปตั้งในภูฏาน เพื่อใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีตาม FTA ที่ภูฏานมีกับคู่เจรจาสำคัญๆในเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ซึ่งจะง่ายกว่าการไปตั้งธุรกิจในประเทศเหล่านั้นนอกจากนี้ โครงการใหญ่ที่สำคัญกำลังจะเปิดรับนักลงทุนต่างชาติ คือโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 10,000 เม็กกะวัตต์ และจะขยายเป็นอีก 3 เท่าในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อส่งไปขายต่อยังอินเดียและประเทศเพื่อนบ้าน (ขณะนี้มีอินเดียเป็นนักลงทุนรายใหญ่)"นอกจากนั้น โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไทยมีจุดแข็ง คือด้านดูแลสุขภาพ การศึกษา การท่องเที่ยว รีสอร์ต ร้านอาหารและธุรกิจบริการในด้านอื่นๆ" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

ในปี 2556 ภูฏานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 153 ของไทยในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2551-2555) การค้ารวมเฉลี่ยมีมูลค่า12.10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 134 ของไทยมีมูลค่าเฉลี่ย (2551-2555) 11.94 ล้านเหรียญสหรัฐและเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ 180 ของไทย มีมูลค่าเฉลี่ย (2551-2555) 0.15 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกไปภูฏานได้แก่ สิ่งทอ รถยนต์และอุปกรณ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผ้าผืนเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เป็นต้น สินค้านำเข้าจากภูฏานที่สำคัญของไทย ได้แก่เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ