‘พาณิชย์’ ต่อยอดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ เจทีซี ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 จัดงานสัมมนา “แบ่งปันกลยุทธ์ บุกเจาะตลาดบังกลาเทศ” เชิญตัวจริงเสียงจริงจากบังกลาเทศและไทยร่วมเปิดประตูโอกาสทางเศรษฐกิจในตลาดบังกลาเทศ หวังขยายการค้าทะลุเป้า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศ (นายทิพู มุนชิ) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “แบ่งปันกลยุทธ์ บุกเจาะตลาดบังกลาเทศ” ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานของการประชุมเจทีซี ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนระดับสูงของบังกลาเทศจากกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานพัฒนาการลงทุนบังกลาเทศมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและกฎระเบียบการค้าและการลงทุนในบังกลาเทศ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง มีกฎระเบียบและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เอื้อต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ อาทิ การยกเว้นภาษีในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (Tax Holiday) และการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน (Double Taxation Exemption) รวมทั้งยังเปิดรับการลงทุนในทุกสาขาอุตสาหกรรมโดยไม่จำกัดเพดานมูลค่าการลงทุน ยกเว้นเพียง 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมอาวุธและยุทโธปกรณ์ อุตสาหกรรมป่าไม้ อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ ความมั่นคงและโรงกษาปณ์ นอกจากนี้ บังกลาเทศยังสามารถจัดสรรพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อให้ตรงตามความต้องการของนักลงทุน และมีศูนย์บริการข้อมูลการลงทุนครบวงจร เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในบังกลาเทศ
นายวีรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาครั้งนี้ ยังมีการเสวนาแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจบุกเจาะตลาดบังกลาเทศ โดยภาคเอกชนและภาควิชาการที่มีความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียใต้ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและชี้ให้เห็นถึงโอกาส ศักยภาพ และความท้าทายของตลาดบังกลาเทศที่มีประชากรมากกว่า 160 ล้านคน และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชียใต้ โดยสินค้าและบริการของไทยที่มีศักยภาพในตลาดบังกลาเทศ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน บริการซ่อมแซมบำรุงสภาพรถ อาหารฮาลาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุก่อสร้าง ของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการจัดงาน Top Thai Brands Dhaka 2020 ระหว่างวันที่ 27 – 30 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการค้าของไทยที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ นอกจากนี้ ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยและบังกลาเทศ ยังเป็นปัจจัยเสริมให้การค้าสินค้า บริการ และการลงทุน ได้รับการต่อยอดสู่ภูมิภาคใกล้เคียง โดยไทยสามารถเชื่อมบังกลาเทศสู่อาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออก ขณะเดียวกัน บังกลาเทศสามารถเป็นประตูการค้าของไทยสู่ตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
“ถึงแม้บังกลาเทศจะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง และมีนโยบายรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ แต่คนไทยยังขาดความเข้าใจและไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคมากนัก ทำให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและบังกลาเทศในปัจจุบันไม่สามารถสะท้อนศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของบังกลาเทศได้ การสัมมนาครั้งนี้ จึงถือเป็นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ นำไปสู่การบุกเจาะตลาดบังกลาเทศอย่างมีประสิทธิภาพ” นายวีรศักดิ์ กล่าว
สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-พ.ย.) การค้ารวมมีมูลค่า 980.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปบังกลาเทศ 905.10 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการนำเข้าจากบังกลาเทศ 75.30 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ปูนซิเมนต์ เม็ดพลาสติก ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เหล็ก และรถยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น และมีสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เป็นต้น
กระทรวงพาณิชย์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
8 มกราคม 2563
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ