กรณี สตง. สั่งสรรพากรตรวจสอบภาษี ย้อนหลัง 60 นักการเมืองยุค รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ และ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.0 เห็นว่า สรรพากรมี การเลือกปฏิบัติ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เอื้อประโยชน์ต่อการเลี่ยงภาษี โดยร้อยละ 40.1 เห็นว่า สรรพากรมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองจึงไม่ตรวจ สอบตามที่ สตง.แจ้งตั้งแต่ต้นปี 2558 แต่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.4 มีความเห็นว่าการตรวจสอบภาษีย้อนหลังดังกล่าว จะไม่กระทบกับโรดแมปความปรองดอง ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 81.5 เห็นว่าควรใช้มาตรการพิเศษในกระบวนการตรวจสอบภาษีย้อนหลังของนักการเมือง
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “การตรวจสอบภาษีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง...ใครผิด ใครถูก” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,216 คน พบว่า
จากกรณี สตง. สั่งสรรพากรตรวจสอบภาษี 60 นักการเมืองยุค รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ และ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประชาชนร้อยละ 20.5 มีความเห็นว่า เป็นเกมทางการเมือง เพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม รองลงมาร้อยละ 17.8 มีความเห็นว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองเมื่อหมดวาระ และร้อยละ 14.2 มีความเห็นว่า นักการเมืองตั้งใจโกง/ ตั้งใจไม่ยื่นภาษี
เมื่อถามว่า การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของ 60 นักการเมือง จะกระทบกับโรดแมปความปรองดอง สมานฉันท์หรือไม่ ประชาชน ร้อยละ 61.4 ระบุว่า ไม่กระทบความปรองดอง โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 35.6 เห็นว่าการเสียภาษี เป็นหน้าที่ต้องพึงปฏิบัติอยู่แล้ว และ ร้อยละ 25.8 เห็นว่าการปรองดองไม่ควรเชื่อมโยงกับการละเว้นความผิด ในขณะที่ร้อยละ 38.6 ระบุการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของ 60 นักการเมืองจะกระทบความปรองดอง โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 22.0 เห็นว่า อาจเกิดกระแสการเลือกปฏิบัติ สองมาตรฐาน และร้อยละ 16.6 เห็นว่าอาจสร้างความไม่พอใจต่อนักการเมือง
ทั้งนี้สาเหตุที่กรมสรรพากรไม่มีการตรวจสอบภาษีของนักการเมืองตามที่ สตง. แจ้ง ตั้งแต่ต้นปี 2558 นั้น ประชาชนร้อยละ 40.1 ระบุว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีการเอื้อ ประโยชน์ให้กับนักการเมือง รองลงมาร้อยละ 27.9 ระบุว่า สรรพากรมีกระบวนการดำเนินงานและตรวจสอบล่าช้า และร้อยละ16.6 ระบุว่า เกรงกลัวอิทธิพลของนักการเมือง
สำหรับความเห็นว่าควรมีการใช้มาตรการพิเศษเข้ามาในกระบวนการตรวจสอบภาษีย้อนหลังของนักการเมืองหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 81.5 ระบุว่าควรมี ขณะที่ร้อยละ 11.3 ไม่ควรมี ที่เหลือร้อยละ 7.2 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ส่วนความเห็นต่อการตรวจสอบภาษีของนักการเมืองในบ้านเมืองเรา ประชาชน ร้อยละ 50.0 เห็นว่า สรรพากรมีการเลือกปฏิบัติ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เอื้อประโยชน์ต่อ การเลี่ยงภาษี รองลงมาร้อยละ 30.2 เห็นว่า มีกระบวนการตรวจสอบที่ล่าช้า ขณะที่ร้อยละ 14.1 เห็นว่ามีกระบวนการตรวจสอบที่ดี บริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ละเลยผู้กระทำผิด
ทั้งนี้หน่วยงานที่ควรทำหน้าที่ชี้ชัดว่านักการเมืองคนใดเข้าข่ายควรถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังหรือไม่ ประชาชนร้อยละ 39.1 ระบุว่าควรเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช. ) รองลงมาร้อยละ 31.9 ระบุว่า ควรเป็นหน้าที่ของ กรมสรรพากร และร้อยละ 29.0 ระบุว่า ควรเป็นหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงิน แผ่นดิน (สตง.)
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยื่นเรื่องให้กรรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลังของนักการเมือง ในประเด็นต่างๆ รวมถึงความเห็นที่มีต่อกระบวนการตรวจสอบภาษีนักการเมืองของกรมสรรพากร เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง แบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้น ได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 22-24 มีนาคม 2560
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 25 มีนาคม 2560ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 687 56.5 หญิง 529 43.5 รวม 1,216 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 130 10.7 31 ปี – 40 ปี 249 20.5 41 ปี – 50 ปี 358 29.4 51 ปี - 60 ปี 301 24.8 61 ปี ขึ้นไป 178 14.6 รวม 1,216 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 771 63.4 ปริญญาตรี 342 28.1 สูงกว่าปริญญาตรี 103 8.5 รวม 1,216 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 168 13.8 ลูกจ้างเอกชน 303 24.9 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 483 39.7 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 49 4 ทำงานให้ครอบครัว 6 0.5 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 175 14.4 นักเรียน/ นักศึกษา 25 2.1 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 7 0.6 รวม 1,216 100--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--