กรุงเทพโพลล์: ดัชนีความเชื่อมั่นประเทศไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2552

ข่าวผลสำรวจ Wednesday July 1, 2009 09:34 —กรุงเทพโพลล์

จากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชน และความวิตกกังวลในจิตใจแล้ว ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยอีกด้วย ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความเชื่อมั่นประเทศไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2552” ขึ้น โดยเก็บข้อมูลจากประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไป ทุกสาขาอาชีพที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 1,026 คน เมื่อวันที่ 22 — 28 มิถุนายนที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

1. ความเชื่อมั่นประเทศไทยประจำเดือนมิถุนายน 2552 มีคะแนนความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.05 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งลดลงจากเดือน
พฤษภาคม 0.02 คะแนน หรือร้อยละ 0.2

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาคะแนนความเชื่อมั่นในแต่ละด้าน พบว่า ความเชื่อมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อของคนไทยยัง คงมีคะแนนสูงที่สุดและเป็นความเชื่อมั่นเพียงด้านเดียวจากทั้งหมด 12 ด้านที่มีคะแนนสูงกว่าครึ่ง ในขณะที่ความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินการคลัง ของประเทศมีคะแนนต่ำที่สุด

สำหรับความเชื่อมั่นที่มีคะแนนลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือ ความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย รอง ลงมาคือความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และความเชื่อมั่นในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่อง สำคัญๆ ของประเทศ ตามลำดับ

ความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยในด้านต่างๆ                                         พฤษภาคม        มิถุนายน     เพิ่มขึ้น/ลดลง

(คะแนนเต็ม10) (คะแนนเต็ม10)

1. ความเชื่อมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี และความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อของคนไทย                  5.73          5.72       - 0.01
2. ความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย                                                4.71          4.54       - 0.17
3. ความเชื่อมั่นในความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน                        4.52          4.49       - 0.03
4. ความเชื่อมั่นในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ   4.34          4.27       - 0.07
5. ความเชื่อมั่นในเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงไปยังประชาชน          4.28          4.23       - 0.05
6. ความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน                                 4.23          4.10       - 0.13
7. ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายของไทย                       3.53          3.73       + 0.20
8. ความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาไทย                                                  3.55          3.65       + 0.10
9. ความเชื่อมั่นในความรักความสามัคคีของคนในชาติ                                     3.55          3.58       + 0.03
10. ความเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน                                3.53          3.56       + 0.03
11.ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน และการประกอบอาชีพ                 3.44          3.38       - 0.06
12. ความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ                                3.36          3.35       - 0.01
เฉลี่ยรวม                                                                     4.07          4.05       - 0.02

2. ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อประเทศไทย ในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมจะ
ยังคงเหมือนเดิม ดังตารางต่อไปนี้

ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า    เชื่อว่าจะดีขึ้น(ร้อยละ)   เชื่อว่าจะแย่ลง(ร้อยละ)   เชื่อว่าจะเหมือนเดิม(ร้อยละ)
1.  ด้านเศรษฐกิจ                                 34.9                  29.1                  36.0
2.  ด้านการเมือง                                 31.3                  23.2                  45.5
3.  ด้านสังคม                                    30.1                  25.1                  44.8

3. เรื่องที่เห็นว่าควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทย (3 อันดับแรก)
(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) ได้แก่
อันดับที่ 1 : แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน และปัญหาปากท้อง................................................ร้อยละ 42.2
อันดับที่ 2 : แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกัน...........................................ร้อยละ 25.5
อันดับที่ 3 : แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองให้มีความสามัคคีและช่วยกันบริหารประเทศ..........................ร้อยละ 8.0

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา จะพบว่า เรื่องที่ประชาชนเห็นว่าควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นของประเทศไทยใน 3 อันดับแรกยังคงเป็นเรื่องเดิม

แต่หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า ความต้องการให้แก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองมีเปอร์เซ็นต์ที่สูง ขึ้น ขณะที่ความต้องการให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกันกลับมีเปอร์เซ็นต์ลดลง ดังรายละเอียดในตารางต่อไปนี้

อันดับที่          เดือนพฤษภาคม                      เดือนมิถุนายน                         เพิ่มขึ้น /ลดลง(ร้อยละ)
1     ให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน                 ให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน
       และการลงทุน (ร้อยละ 40.1)                  และปัญหาปากท้อง (ร้อยละ 42.2)                + 2.1

2     ให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคม              ให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคม
      ให้มีความรักสามัคคีกัน (ร้อยละ 35.0)             ให้มีความรักสามัคคีกัน  (ร้อยละ 25.0)            - 10.0

3     แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองให้มีความ       แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองให้มีความ       + 2.0
สมานฉันท์ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ (ร้อยละ 6.0)   สมานฉันท์ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ (ร้อยละ 8.0)

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ในประเด็นต่อไปนี้

1. ประเมินความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยของประชาชนชาวกรุงเทพมหานครในด้านต่างๆ

2. ประเมินความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยของประชาชนชาวกรุงเทพมหานครในด้านต่างๆ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

3. เรื่องที่เห็นว่าควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทย

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกสาขาอาชีพ ในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้น ตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มเขตการปกครองทั้งเขตชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน จำนวน 34 เขต ได้แก่ เขตคลองเตย คลองสาน คันนายาว จตุจักร ดินแดง ดุสิต ทวีวัฒนา ทุ่งครุ ธนบุรี บางกะปิ บางกอกน้อย บางเขน บางขุนเทียน บางซื่อ บางพลัด บางรัก ปทุมวัน ป้อมปราบ ศัตรูพ่าย พญาไท พระโขนง พระนคร มีนบุรี ยานนาวา ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ ลาดกระบัง วังทองหลาง วัฒนา สวนหลวง สะพานสูง หนองแขม หนองจอก หลักสี่ และห้วยขวาง จากนั้นจึงสุ่มถนนและประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,026 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 48.4 และเพศหญิงร้อยละ 51.6

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน..4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูล และประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  22 — 28 มิถุนายน 2552

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  1 กรกฎาคม 2552

ข้อมูลประชากรศาสตร์

                                                   จำนวน         ร้อยละ
เพศ
            ชาย                                      497          48.4
            หญิง                                      529          51.6
รวม                                                1,026         100.0

อายุ
            18 ปี — 25 ปี                              279          27.2
            26 ปี — 35 ปี                              301          29.3
            36 ปี — 45 ปี                              244          23.8
            46 ปีขึ้นไป                                 202          19.7
รวม                                                1,026         100.0

การศึกษา
             ต่ำกว่าปริญญาตรี                            518          50.5
             ปริญญาตรี                                 435          42.4
             สูงกว่าปริญญาตรี                             73           7.1
รวม                                                1,026         100.0

อาชีพ
             ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ               133          12.9
             พนักงาน / ลูกจ้างบริษัทเอกชน                 285          27.8
             ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว                 247          24.1
             รับจ้างทั่วไป                               127          12.4
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ                 55           5.3
              อื่นๆ อาทิ นิสิตนักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน      179          17.5
รวม                                                1,026        100.00

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ